เชียงใหม่ - ร้านค้าปลีกค้าส่งเชียงใหม่ยังคงราคาขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้เท่าเดิม แม้กรมการค้าภายในอนุมัติให้ 3 ยี่ห้อดังขยับขึ้นได้ซองละ 1 บาท พบตรึงราคาต่อจนถึง 1 ก.ย. 65 ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการ ทั้งไข่ไก่ น้ำมันพืช นมข้นหวาน ขึ้นราคาไปแล้ว
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตามที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ยี่ห้อ ได้แก่ มาม่า ไวไว และยำยำ สามารถปรับราคาขายได้อีกไม่เกินซองละ 1 บาท หรือเท่ากับขายได้ไม่เกินซองละ 7 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ครอบคลุมเฉพาะสินค้าเดิมที่ราคาซองละ 6 บาท ทั้งนี้วันนี้ (26 ส.ค. 65) จากการสำรวจร้านค้าปลีกและส่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พบว่าห้างใหญ่ และร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ยังคงจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 3 ยี่ห้อในราคาเดิมที่ 6 บาทอยู่ ขณะที่จากการสำรวจร้านค้าปลีกตามชุมชนยังไม่พบว่ามีร้านใดฉวยโอกาสขยับขึ้นราคาก่อนเช่นกัน อย่างเช่นที่ร้าน จงกำไร ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านค้าประชารัฐ ในพื้นที่ชุมชนป่าตัน-บ้านท่อ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบว่ายังจำหน่ายราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง มาม่า ไวไว และยำยำ ซองเล็กในราคาซองละ 6 บาทอยู่ ยังไม่ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นางนภศร ยะบุญ เจ้าของร้านจงกำไร เปิดเผยว่า ทางร้านยังไม่ขยับราคาแม้ว่าจะมีการประกาศแจ้งมาแล้วว่าขึ้นมาราคาซองละ 1 บาท แต่ที่ร้านแม้จะมีสต๊อกที่อยู่ในราคาเดิมอยู่จำนวนหนึ่งก็ไม่ได้ฉวยโอกาสปรับราคาขึ้น และต้องการระบายของให้หมดก่อนอีกทั้งเป็นการช่วยชาวบ้านในการแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามได้แจ้งล่วงหน้ากับลูกค้าว่าจะมีการปรับราคาขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป เฉพาะราคาซองเล็กจาก 6 บาทเป็น 7 บาท ขณะที่ราคาสินค้าหลายประเภทมีการปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืชหรือไข่ไก่ที่ราคายังสูงไม่ยอมลดลงเลย โดยไข่ไก่ฟองใหญ่เวลานี้ราคาอยู่ที่ฟองละ 5 บาท นอกจกานี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าราคานมข้นหวานทุกขนาดมีการปรับราคาขึ้นอีกกระป๋องละ 3 บาท กระป๋องเล็กจาก 22 บาทขึ้นเป็น 25 บาท กระป๋องใหญ่จาก 24 บาทเป็น 27 บาท กาแฟผงขึ้นมาห่อละ 3 บาท จาก 30 บาทเป็น 33 บาท และช่วง 2 วันที่ผ่านมาก็พบว่าราคาน้ำยาปรับผ้านุ่ม และผงซักฟอกก็ขยับราคาขึ้นมาอีกถุงละ 1 บาท จากราคา 14 ขึ้นเป็น 15 บาท และ 15 ขึ้นเป็น 16 บาท ทั้งนี้ยังมีกระแสข่าวมาอีกว่ายังจะมีสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลายชนิดที่จะขยับราคาขึ้นมาอีก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายข้าวของเครื่องใช้สินค้าอุปโภคบริโภคของประชาชนในช่วงย่างใกล้เข้าสู่ช่วงปลายเดือนพบว่ายังค่อนข้างเงียบเหงา คาดว่าส่วนหนึ่งยังคงรอเงินเดือนออก และอีกส่วนหนึ่งอาจจะรอใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ที่จะเริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป