อุบลราชธานี - ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประสานแจ้งสำนักงานชลประทานทั้ง 3 เขตของภาคอีสานใช้เขื่อนกั้นลำน้ำต่างๆ ในแม่น้ำมูล แม่น้ำชี และลำน้ำสาขาหน่วงน้ำไม่ให้ไหลมารวมกันเร็วที่ปลายน้ำจังหวัดอุบลราชธานี
เพื่อลดพื้นที่น้ำท่วม
นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เข้าสำรวจชุมชนท่าบ้งมั่งและชุมชนเกตุแก้ว เทศบาลเมืองวารินชำราบ ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลที่สูงขึ้น และน้ำเริ่มไหลท่วมบ้านเรือนชาวชุมชนที่อยู่ในจุดต่ำสุด ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ เตรียมไว้รองรับเกือบ 20 ครอบครัว
พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี เดินเครื่องสูบน้ำเพื่อดึงน้ำที่ท่วมชุมชนทั้ง 2 แห่งกลับลงแม่น้ำมูลเร็วที่สุด
นายพงษ์รัตน์กล่าวว่า ตั้งแต่พายุมู่หลานพัดเข้าภาคอีสาน ได้พูดคุยประสานกับผู้ดูแลเขื่อนที่อยู่เหนือจังหวัดในลำน้ำมูล ลำน้ำชี ทั้งเขื่อนราษีไศล ธาตุน้อย หัวนา เขื่อนยโสธร รวมทั้งเขื่อนตามลำน้ำสาขาทั้งลำโดมใหญ่ เขื่อนเซบก เซบาย ให้หน่วงน้ำปล่อยน้ำให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 6, 7 และ 8 ที่มีเขื่อนตั้งอยู่เหนือน้ำของจังหวัดได้ช่วยกันหน่วงน้ำไหลมายังจังหวัดให้ช้าที่สุด เพื่อลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วมไม่ให้ขยายวงกว้าง
ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 8 อำเภอ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมกว่า 24,000 ไร่ สำหรับที่พักอาศัยมีในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ และต้องอพยพแล้ว 7 ชุมชน รวมประมาณ 46 ครอบครัว
สำหรับวันนี้ แม่น้ำมูลยังปรับตัวขึ้น 6 เซนติเมตร แต่เป็นการปรับตัวขึ้นแบบชะลอตัว ทำให้มีน้ำสูง 6.29 เมตร ห่างจากตลิ่งเพียง 71 เซนติเมตร
