น่าน - “รองนายกฯ พลเอก ประวิตร” ยกคณะติดตามสถานการณ์หลังพายุมู่หลานทำน้ำท่วมน่าน สั่งเร่งช่วยเหลือฟื้นฟู และจัดทำแผนรับมือฤดูฝนทั้ง 13 มาตรการ-แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 65 อย่างเคร่งครัด
วันนี้ (22 ส.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดน่าน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และภาพรวมความเสียหายของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุมู่หลาน
โดยเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องพระเจ้าสุริยพงษ์ผลิตเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน จากนั้นได้เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว บ้านศรีเกิด หมู่ที่ 3 ตำบลไชยสถาน อำเภอเมือง และตำบลบ่อ อำเภอน่าน เพื่อติดตามการช่วยเหลือ พร้อมมอบสิ่งของให้แก่ผู้แทนประชาชนที่ประสบภัยจำนวน 1,000 ราย
พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากพายุดีเปรสชัน “มู่หลาน” จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างทันท่วงที พร้อมทำการฟื้นฟูเยียวยา และเร่งแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆ ให้คืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้พิจารณาจัดทำแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว ให้ครอบคลุมปัญหาของพื้นที่จังหวัดและลุ่มน้ำ
โดยได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจังหวัดน่าน เร่งดำเนินการทั้ง 13 มาตรการรับมือฤดูฝน-แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 2565 ที่ กนช.ได้เห็นชอบ ขณะเดียวกันได้ให้กรมทางหลวงเร่งรัดโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคระหว่างบ้านผาเวียง จังหวัดอุตรดิตถ์ และบ้านปากนาย จังหวัดน่าน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้อนุมัติจัดสรรงบกลางให้กับจังหวัดน่านแล้ว 2 ครั้ง จำนวน 98 โครงการ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้ประชาชน และได้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมอบสิ่งของจำเป็นบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมเร่งทำการฟื้นฟู เยียวยาและซ่อมแซม สถานที่ที่เสียหายให้กลับมามีสภาพใช้งานได้ตามเดิม รวมถึงเร่งดำเนินงานโครงการก่อสร้างฝายกั้นลำห้วยน้ำซาว บ้านศรีเกิด ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ด้วย
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำน่าน ว่า ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ มีอยู่ประมาณ 50% ของความจุเก็บกัก ซึ่งแม้ว่ายังสามารถรองรับปริมาณฝนที่คาดการณ์ว่าจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดน่าน
แต่จากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม รวมถึงจากอิทธิพลของ “มู่หลาน” ในช่วงที่ผ่านมา ลำน้ำรวมถึงดินอุ้มน้ำไว้มากพอสมควร อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย ทั้งนี้ กอนช.จะมีการติดตาม วิเคราะห์ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำ เพื่อแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบได้ล่วงหน้าและทันสถานการณ์ให้มากที่สุด