พิษณุโลก - ตำรวจเค้นสอบกว่า 7 ชม.ยอมรับสารภาพ..พ่อเลี้ยงสุดโหดทุบลูกเลี้ยงอายุ 2 ขวบ ตับ-ม้ามแตก เลือดคั่งในกระเพาะเสียชีวิต น้องชายต่างพ่อวัย 6 เดือนสาหัส ทั้งแขนหัก ขาร้าว ตับอักเสบ หน้าตาบวมเขียวช้ำ อ้างเด็กซน ไม่คิดว่าจะรุนแรง
วันนี้ (16 ส.ค. 65) นางจันสุดา อินอิ่ม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/4 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยครอบครัว ได้เดินทางไปรับศพ ด.ญ.ญาณิน สุโกสิ หรือน้องข้าวฟ่าง อายุ 2 ขวบ หลานสาวที่เสียชีวิต จากนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร มาทำการบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดจุฬามณี ด้วยความโศกเศร้า
หลังจากน้องข้าวฟ่างได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลฯ เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา (15 ส.ค.) เนื่องจากอาการหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ผลการชันสูตรศพน้องข้าวฟ่าง พบว่าตับแตก ม้ามแตก เลือดคั่งในกระเพาะ ซึ่งขัดแย้งกับญาติที่นำส่งโรงพยาบาลฯ ที่ระบุว่าน้องมีอาการสำลักนมจนไม่หายใจ แพทย์จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต
นางจันสุดา ผู้เป็นย่าของน้องข้าวฟ่าง เปิดเผยว่า หลังจากแม่ของน้องข้าวฟ่างได้เลิกกับลูกชายตนไปมีแฟนใหม่ แต่ก็ยังอยู่ห้องเช่าติดกัน และได้รับน้องข้าวฟ่างไปอยู่ด้วย ต่อมาแม่ของน้องข้าวฟ่างก็มีลูกชายกับแฟนใหม่อีก 1 คน ชื่อน้องเอ (นามสมมติ) ปัจจุบันอายุ 6 เดือนเท่านั้น จากนั้นได้เลิกกับพ่อน้องเอ แล้วได้แฟนอีกคน (คนที่ 3)
ที่ผ่านมาแม้ว่าจะอยู่ห้องเช่าติดกันและตนก็อยากนำหลานมาเลี้ยงเอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ กระทั่งช่วงตี 4-5 ที่ผ่านมาตนได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่นาน ตอนนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร จน 5 โมงเย็นแม่น้องข้าวฟ่างโทร.มาบอกว่าน้องข้าวฟ่างเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากหมดสติ ตนก็ตกใจกำลังจะเดินทางไปดูหลาน แต่สุดท้ายแม่น้องข้าวฟ่างโทร.มาบอกอีกครั้งว่าน้องเสียแล้ว ทำให้ตนเองเสียใจมาก จึงรีบไปโรงพยาบาล
“ตอนนั้นแพทย์ได้ทำการสอบถามเพิ่มเติมว่าน้องข้าวฟ่างถูกกระทำทารุณด้วยหรือไม่ เนื่องจากผลชันสูตรไม่ใช่การสำลักนม แต่ถูกของแข็งทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ฉันก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างที่สงสัย”
น.ส.ดาวรุ่ง เถาว์พันล้อม อายุ 33 ปี น้าน้องข้าวฟ่าง เปิดเผยว่า ช่วง 4 โมงเย็นวานนี้ (15 ส.ค.) พ่อเลี้ยงน้องข้าวฟ่างโทร.มาหาตน บอกน้ามาดูหลานหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรปลุกไม่ตื่น เมื่อไปถึงเขาก็อุ้มน้องข้าวฟ่างออกมาส่งให้ ตอนนั้นพอจับตัวน้องรู้สึกว่าตัวเย็นเฉียบแขนห้อยไม่หายใจแล้ว จึงรีบบอกพี่ชายให้ขับรถนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ไม่ทัน เนื่องจากน้องเสียชีวิตแล้ว
“ตอนไปรับก็คิดว่าหลานป่วย ไม่คิดว่าหลานจะเสียชีวิต ดูแล้วเสียชีวิตมานานหลายชั่วโมงแล้วด้วย แพทย์แจ้งผลว่าเสียชีวิตเพราะตับแตก ม้ามแตก เลือดคั่งในกระเพาะ ศีรษะเป็นแผล ส่วนน้องตัวเล็กวัย 6 เดือน ลูกชายอีกคนของแม่น้องข้าวฟ่าง แพทย์ก็พบรอยช้ำที่ร่างกาย ตับอักเสบ แขนหัก ขาร้าว หน้าตาบวมเขียวช้ำ ก็รับเข้าทำการรักษาทันทีเหมือนกัน”
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ล่าสุดชุดสืบสวนนำตัวพ่อเลี้ยงของเด็ก อายุ 21 ปี และแม่วัย 17 ปี มาแยกสอบสวนเพื่อหาความจริง โดยใช้เวลานาน 7 ชม. พ่อเลี้ยงเด็กจึงยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทุบตีน้องข้าวฟ่างจริง โดยพ่อเลี้ยงของเด็กอ้างว่าน้องข้าวฟ่างซนไปหยิบปลั๊กไฟบ้าง สิ่งของอื่นบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่ารุนแรง และเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนน้องเอ (นามสมมติ) วัย 6 เดือน ก็ใช้เพียงท่อนแขนตีไปที่ลำตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ จึงได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
