xs
xsm
sm
md
lg

เปิด ประวัติ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้พิทักษ์ผืนป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" ซึ่งมีภาพจำในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตัดสินใจดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน ในคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ล่าสุด อัยการสูงสุด ยันฟ้อง”ชัยวัฒน์”อุ้มฆ่าไตร่ตรอง “บิลลี่” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

จากกรณี อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง "ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" ในคดี อุ้มฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อน  “บิลลี่” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จากภาพเจ้าหน้าที่พิทักษ์ผืนป่า ไล่ล่านายทุนรกป่า วันนี้ ตกเป็นผู้ต้องหา อุ้มฆ่า ส่วนข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ได้สั่งฟ้องไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เตรียมนัดส่งตัวฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ

นายชัยวัฒน์ เป็นชาวอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ชื่อเล่นว่า อี่ เกิดวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2507 ปัจจุบันอายุ 58 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต การจัดการทรัพยากรป่าไม้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต การบริหารทรัพยากรป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชีวิตการทำงาน

-เคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2551 จนถึงปี 2557
-เคยเป็นหัวหน้าชุดพญาเสือ (สามารถตรวจสอบ จับกุม การกระทำผิดตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติได้ทั่วประเทศ)
-นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)
-ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี)
–ตำแหน่งปัจจุบัน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี
เป็นที่รู้จักในสื่อ

– ปี 2554 นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน เข้ารื้อ-เผาที่พักอาศัยชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย (ใจแผ่นดิน) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กว่า 20 ครอบครัวเพื่อผลักดันออกจากผืนป่าอุทยานฯ แก่งกระจาน นำมาสู่คดีต่อสู้ระหว่าง ปู่คออี้ ผู้นำกะเหรี่ยง ที่ยื่นฟ้องกรมอุทยานฯ และนายชัยวัฒน์ ต่อศาลปกครองกลาง

– เดือนกรกฎาคม ปี 2554 บุกป่าฝ่าดงเข้าช่วยกู้เฮลิคอปเตอร์ตกในอุทยานฯ แก่งกระจาน เหตุการณ์สูญเสียทหารและสื่อมวลชน รวม17 ราย จนได้รับฉายาว่า “วีรบุรุษแก่งกระจาน” และได้รับประกาศนียบัตรเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2554 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

-เดือนเมษายนปี 2557 ยอมรับว่าควบคุมตัวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ หลานชายปู่คออี้ ฐานครอบครองน้ำผึ้งก่อนสูญหายไป

– ปี 2561 ระหว่างเป็นที่ปรึกษา หน่วยฯ พญาเสือ ได้ร่วมการตรวจหาพยานหลักฐานคดียิงเสือดำ คดีใหญ่ครึกโครมแห่งปีสะท้านแวดวงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีซีอีโอบริษัทยักษ์ตกเป็นจำเลย

– 11 พฤศจิกายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ กับลูกน้องอีก 3 คน ในคดีการเสียชีวิตของบิลลี่

-12 พฤศจิกายน  2562 นายชัยวัฒน์ นำลูกน้องพร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวสู้คดีต่อดีเอสไอ

เมื่อช่วงเดือน มกราคม 2563 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 มีคำสั่งไม่ฟ้องหลายข้อหา ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนคดีอาญาให้สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาคดีระหว่าง น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ กับพวกรวม 2 คน ผู้กล่าวหา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร, นายบุญแทน บุษราคัม, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงศ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 1-4 นั้น

ขณะนั้น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้จ่ายสำนวนให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณา ตั้งคณะทำงาน โดยคณะทำงานร่วมกันตรวจพิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่า สำหรับข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 จึงเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-3 ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/2, 172 และเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น

ส่วนข้อกล่าวหาอื่น คณะทำงานเห็นว่าทางคดีไม่มีประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมใดๆ เพียงพอที่จะเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้งสี่ได้ร่วมกันกระทำผิด มีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง จึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง

สำหรับข้อหาร่วมกันฆ่าบิลลี่ คณะทำงานเห็นว่า ในชั้นนี้พยานหลักฐานไม่พอฟ้อง จึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่เช่นกัน
ซึ่งต่อมาทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นเเย้งคำสั่งของอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ตามขั้นตอนจึงต้องส่งให้จนอัยการสูงสุดชี้ขาดในครั้งนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น