สามเหลี่ยมทองคำ - “สุชาติ ตันเจริญ-รอง ปธ.สภาฯ ไทย” นำทีม ส.ส.เชียงรายข้ามโขงหารือ “จ้าวเหว่ย-ปธ.เขตเศรษฐกิจฯ สามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว” เล็งผุดสะพานดันแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจคู่ขนาน หลังลาวรุดหน้าตามแทบไม่ทัน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พร้อมด้วยนายเอกภพ เพียรพิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 1 และนายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย เขต 6 ได้ร่วมลงพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และปัญหาสถานการณ์ด้านความมั่นคงบริเวณชายแดน ตลอดจนแนวทางการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เชื่อม อ.เชียงแสน กับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว
นอกจากนี้ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ยังได้ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ และข้ามน้ำโขงไปดูงาน ณ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว ที่เปิดพรมแดนหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งนายสุชาติได้พบปะกับนายจ้าว เหว่ย ประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ ผู้รับสัมปทานลงทุนพัฒนาพื้นที่เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านต่างๆ ร่วมกันในอนาคต
นายสุชาติได้ชื่นชมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่มีความก้าวหน้าและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะฝั่งไทย จ.เชียงรายก็มีนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนเช่นกัน ดังนั้นจึงหารือกับนายจ้าว เหว่ย เพื่อผลักดันความร่วมมือร่วมกันแบบคู่ขนาน เพราะเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว การลงทุน การค้า การสร้างงานสร้างอาชีพ ฯลฯ ซึ่งนายจ้าว เหว่ย ตอบรับว่ารู้สึกดีใจที่ทางฝ่ายไทยได้ไปเยือนในครั้งนี้รวมทั้งยังให้ความสำคัญต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษอีก จึงหวังว่าจะได้ร่วมกันผลักดันการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต
นายสุชาติกล่าวว่า ตนเคยเดินทางไปเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำใน สปป.ลาว เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อนซึ่งเป็นระยะที่ย้ายหมู่บ้าน ปรากฏว่าผู้ลงทุนได้สร้างสถานที่แห่งใหม่ให้หมด มีทั้งวัด โรงเรียน ฯลฯ ชาวบ้านไม่ได้รับความเดือดร้อน พอมาครั้งที่ 2 พบมีการก่อสร้ากาสิโนแล้ว แต่ก็ไม่มีการพัฒนามากนัก กระทั่งครั้งนี้เห็นแล้วประทับใจมากเพราะเติบโตอย่างรวดเร็วภายใต้เงินลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการสร้างเมืองใหม่เจริญเหมือนฮ่องกง ไต้หวัน ฯลฯ ประชาชนก็มีรายได้ที่ดี ปัจจุบันกำลังสร้างสนามบิน สวนสัตว์ โรงแรมห้าดาวอีกหลายแห่ง สนามกอล์ฟ ฯลฯ ตลาดภายในก็เติบโตอย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมที่มีอยู่ประมาณ 10 แห่งก็มีนักลงทุนชาวจีนเข้าไปซื้อจนเกือบหมดแล้ว ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จมาก
นายสุชาติกล่าวอีกว่า เมื่อหันกลับมามองประเทศไทยก็จะเห็นได้ว่าแตกต่างจากฝั่ง สปป.ลาวมาก แต่ในอนาคตก็สามารถเชื่อมการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันได้ การเดินทางไปครั้งนี้ตนจึงให้ความสำคัญในเรื่องของการเชื่อมโยง และในอดีตสามเหลี่ยมทองคำมีชื่อเสียงด้านยาเสพติด ในครั้งนี้ตนจึงถือโอกาสพาเจ้าหน้าที่จากประเทศไทยเข้าไปศึกษาพื้นที่ว่าเป็นแหล่งผลิตและพักยาเสพติดหรือไม่ แต่เมื่อเข้าไปดูจริงแล้วพบว่ามีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ภายในมีการตั้งด่านตรวจยาเสพติดอย่างเข้มงวด ตนจึงขอแก้ข่าวในอดีตว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
ด้านนายพีรเดชกล่าวว่า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเติบโตอย่างรวดเร็วแตกต่างจาก 10 ปีก่อนมาก ดังนั้นตนและนายเอกภพจึงมีแนวคิดร่วมกันว่าควรจะมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมเมืองต้นผึ้งกับ อ.เชียงแสน เพื่อสร้างโอกาสและทำให้มีประตูทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยได้ในอนาคตต่อไป
