ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณาจารย์และเพื่อนนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ร่วมกันรดน้ำศพนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสคณะพยาบาลเฉี่ยวชน จยย.เสียชีวิตในมหาวิทยาลัยขณะเดินทางไปเรียน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ด้านพี่ชายติดใจทำไมในพื้นที่มหาวิทยาลัยไม่ปลอดภัย
จากกรณีรถบัสโดยสารของคณะพยาบาลศาสตร์ ม.ขอนแก่น เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่มีนักศึกษาหญิงคณะแพทยศาสตร์ขี่ซ้อนท้ายกันมาจนรถล้มลง ทำให้นักศึกษาคนซ้อนเสียชีวิตคาที่เพราะถูกล้อรถบัสทับ ขณะที่เพื่อนที่เป็นคนขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณสามแยกคณะพยาบาลเภสัชศาสตร์ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศาลาพิธีกรรม คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ทางคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้จัดพิธีรดน้ำศพ นศพ.อรุณนภา วัฒนพานิช อายุ 19 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีญาติ คณะอาจารย์ และเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิตได้ทยอยเข้ามาร่วมพิธีค่อนข้างมากอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
ขณะที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายวีรวัฒน์ ยุกติรัตน์ อายุ 29 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่เกิดภายในมหาวิทยาลัย
นายวีรวัฒน์กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการสอบปากคำ ทางที่บ้านมองว่าคู่กรณีคือคนขับรถบัสโดยสารเป็นพนักงานของคณะพยาบาลก็อยากจะให้พูดถึงเรื่องของความดูแลรับผิดชอบด้วย และจากที่ได้รับข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุช่วงเช้าน้องกำลังจะไปเรียนหนังสือพร้อมกับรูมเมต ระหว่างที่กำลังเดินทางไปถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางสามแยกช่วงคณะเภสัชฯ-คณะสถาปัตย์ น้องได้จอดรถที่บริเวณทางที่เป็นตัว T พอดี เพื่อรอจังหวะเลี้ยวขวาไปทางคณะแพทย์
ส่วนรถคู่กรณีก็จอดรอเพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปทางคณะพยาบาล ในช่วงเช้าปกติแล้วรถจะเยอะและมีเจ้าหน้าที่จราจรคอยโบกรถคอยให้สัญญาณ จังหวะที่รถกำลังไหลไปทางคณะพยาบาล น้องได้ขี่รถมาจอดรอเพื่อที่จะเลี้ยวขวาไปทางคณะแพทยศาสตร์ ระหว่างนั้นรถบัสของคณะพยาบาลก็ได้ขับตามมาและได้เฉี่ยวชนน้อง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางครอบครัวได้มีการคุยกับอาจารย์ทั้งสองคณะทั้งคณะแพทยศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์เรื่องค่าเยียวยาชดเชย แต่รายละเอียดต่างๆ คงต้องหารือกันอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นพิธีฌาปณกิจ
ตนในฐานะพี่ชายก็ไม่อยากให้เรื่องเงียบ เพราะเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาตั้งแต่สมัยเคยเรียนที่นี่เช่นกัน สงสัยว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ เกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ของคน หรือเกิดจากการออกแบบถนนหนทาง เพราะว่ามหาวิทยาลัยควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากที่สุด และช่วงเกิดเหตุก็เป็นช่วงที่น้องกำลังจะเดินทางไปเรียนหนังสือ จึงรู้สึกสะเทือนใจมาก
