อุบลราชธานี - ตำรวจเค้นสอบ “ชาย หาดวัดใต้” นักเลงรุ่นใหญ่ในกลุ่มการ์ดจนคลายที่ซ่อนรถและปืนขนาด
11 มม.นำมามอบให้ตำรวจตรวจสอบ ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ร่วมประชุม สรุปผลการตรวจค้น และตรวจสอบปืนที่โลกออนไลน์โพสต์เป็นปืนบีบีกัน และ .22 รูปทรงปืนสงครามมีทะเบียนถูกต้อง
ตอนสายวันนี้ (6 ส.ค.) ทีมพนักงานสอบสวนคดีวัยรุ่นกราดยิงกันหน้าร้านอาหารกึ่งผับกลางเมืองอุบลราชธานี ควบคุมตัวสอบเครียดนายสมชาย ศรีหิน อายุ 54 ปี หรือชาย หาดวัดใต้ นักเลงรุ่นใหญ่ในกลุ่มวัยรุ่นหาดวัดใต้ที่อยู่ร่วมในห้องวีไอพีหลังร้านพญายอ ที่นัดกันไปเคลียร์ปัญหา จนนายภิวัฒน์ หรือโชค หนึ่งในแก๊งใช้ปืนสั้น 9 มม.จ่อยิง นายโชคทวัตร หรือเป็ด บ้านขาม หัวหน้าการ์ดร้านพญายอ แก๊งขามใหญ่ ในห้องวีไอพีได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากนั้นกลุ่มหาดวัดใต้ได้วิ่งออกจากห้องวีไอพี จะกลับไปที่ร้านเอกมัย 487 ของตนเอง
แต่เมื่อกลุ่มขามใหญ่ทราบว่านายเป็ดถูกยิง ผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่ายที่รออยู่นอกร้าน ก็เปิดฉากยิงปืนเข้าใส่กัน จนเหตุการณ์สงบ นายสมชายก็พาสมาชิกในกลุ่มหลบออกมาจากที่เกิดเหตุ
ต่อมานายสมชายได้ติดต่อให้ญาตินำปืนออโตเมติกขนาด 11 มม.ที่ใช้ในวันเกิดเหตุ และรถกระบะมิตซูบิชิไทรทันแบบ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ขก 5559 อุบลราชธานี มีรอยกระสุนที่กระจกประตูหลังข้างซ้าย ขอบประตูด้านขวาที่นั่งด้านหลังคนขับ และกระจกแผ่นหลังรถอย่างละ 1 นัด รวม 3 จุด และยังมีกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่กระเป๋าขอบประตูด้านที่นั่งคนขับอีก 1 นัดมามอบให้ชุดสอบสวนตรวจสอบประกอบคำให้การ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนายสมชายนานหลายชั่วโมง ก่อนนำตัวมาควบคุมไว้ในห้องขัง
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มาประชุมสรุปผลการปฏิบัติการตรวจค้นเมื่อเช้าวันนี้ และการสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ร่วมในเหตุการณ์รับสารภาพ แต่ก็มีความขัดแย้งของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และบางคนก็ไม่ยอมพูดว่าเห็นเหตุการณ์ ทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์
ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกหมายจับตัวผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว 3 คน โดยแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน รวมทั้งจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามมาตรา 294 เรื่องของการร่วมกันชุลมุนตั้งแต่สามคนขึ้นไป ซึ่งการสอบสวนคืบหน้าไปมาก คาดว่าสัปดาห์หน้าอาจมีการขอหมายจับผู้ร่วมกันก่อเหตุเพิ่มได้ราว 2-3 คนด้วย
ขณะนี้ตำรวจตรวจสอบการครอบครองอาวุธปืนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่พบมีปืนที่ได้รับอนุญาตอยู่ในความครอบครอง แต่ทั้งนี้ ก็ยังตรวจสอบได้ไม่ครบ เพราะการตรวจสอบไม่ใช่ตรวจจากผู้ต้องสงสัยหรือที่เกี่ยวข้องเหตุการณ์ บางทีเป็นชื่อของคนอื่น หรือเครือญาติเป็นผู้ครอบครองแล้วนำปืนมาใช้ แต่จากการตรวจสอบผู้ต้องสงสัยทั้ง 11 คนไม่พบมีปืนได้รับอนุญาต
ซึ่งการตรวจสอบก็ตรวจจากการนำอาวุธมาใช้จริง อีกส่วนมาจากการโพสต์โชว์อาวุธปืน นำมาตรวจสอบขยายผลเพิ่ม และยืนยันว่าในที่เกิดเหตุยิงกันพบปลอกกระสุนปืนของปืน AK 47 หรือปืนอาก้า และปืนชนิดอื่นด้วย
ด้าน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า สำหรับที่มีการโพสต์ภาพโชว์อาวุธปืนรูปทรงอาวุธสงคราม ได้เรียกกลุ่มวัยรุ่นชุดนี้มาตรวจสอบ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และปืนที่เอามาโชว์เป็นปืนบีบีกัน 2 กระบอก อีก 1 กระบอกเป็นปืน .22 มีทะเบียนถูกต้อง จึงยึดเอาปืน .22 มาตรวจสอบไว้ก่อน
