บุรีรัมย์ - พาณิชย์บุรีรัมย์พร้อมศูนย์ดำรงธรรม สคบ. และ ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารที่ถูกลูกค้าร้องเรียน และแจ้งความว่าขายอาหารไม่ตรงปกทั้งยังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมปาเงินใส่หน้าลูกค้า ตักเตือนให้แก้ไขเมนูอาหารให้ตรงปก พร้อมปรับ 1 พัน ฐานทำให้อับอาย เจ้าของร้านขอโทษ คู่กรณีให้อภัยไม่ติดใจเรียกค่าเยียวยา
วันนี้ (5 ส.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ นายกันตพงศ์ เมลวิน อายุ 53 ปี นักท่องเที่ยวชาวกรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ประจักษ์ คำนาค รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกทำร้ายจิตใจจากผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ กรณีที่ไปรับประทานอาหารร้านดังกล่าวแล้วได้รับเมนูอาหารไม่ตรงปกตามที่สั่ง พอทักท้วงเจ้าของร้านกลับแสดงอาการไม่พอใจ แถมปาเงินที่ตนเองจ่ายค่าอาหารใส่หน้า ต่อหน้าพนักงานและลูกค้าคนอื่นที่อยู่ในร้าน ทำให้เกิดความอับอาย
ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ จนท.คุ้มครองผู้บริโภค และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหารที่ถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียนว่าอาหารไม่ตรงปกตามเมนูที่สั่ง ทั้งแจ้งความเอาผิดฐานทำให้อับอายเนื่องจากเจ้าของร้านปาเงินใส่หน้าต่อหน้าลูกค้าและไล่ออกจากร้าน
จากการสอบถาม น.ส.ยุพาธิลักษณ์ เจ้าของร้านอาหารที่ถูกร้องเรียนยอมรับว่าอาหารไม่ตรงตามภาพในเมนูจริงเพราะเอาภาพมาจากอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อลูกค้าไม่พอใจก็ยินดีคืนเงินเมนูที่ไม่ตรงปกให้ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ปาเงินใส่หน้าลูกค้าเป็นการโยนให้ที่โต๊ะแต่เงินตกพื้น ทำให้ลูกค้าไม่พอใจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าที่ร้องเรียนได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน ซึ่งทางเจ้าของร้านยอมขอโทษลูกค้าที่ทำอาหารไม่ตรงปก และโยนเงินคืนให้ และรับปากว่าจะปรับปรุงแก้ไขทั้งเรื่องเมนูอาหารและการบริการ ขณะที่ลูกค้าพอใจไม่ประสงค์จะเรียกค่าเยียวยาหรือค่าเสียเวลาต่างๆ แค่ฝากให้เจ้าของร้านปรับปรุงให้ดีขึ้น และพร้อมจะกลับมาที่บุรีรัมย์อีก ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็ยกมือไหว้ และจับมือกัน
เบื้องต้นทางหน่วยงานได้ว่ากล่าวตักเตือนพร้อมแนะให้ทางร้านแก้ไขรูปภาพในเมนูรายการอาหารให้ตรงกับอาหารที่ร้านทำจริง ไม่เอาภาพจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ ส่วนทางคดีที่แจ้งความไว้กรณีทำให้อับอายต่อหน้าธารกำนัล พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมายด้วยการเปรียบเทียบปรับ 1 พันบาท จากยอดปรับเต็ม 10,000 บาท