ตราด - กมธ.ต่างประเทศ วุฒิสภา ลงพื้นที่บ้านท่าเส้น จ.ตราด รับทราบปัญหาหลัง ครม.มีมติให้เปิดจุดผ่านแดนถาวร แต่ สมช.ยังหวั่นปัญหาความมั่นคงและพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (5 ส.ค.) พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (คนที่ 2) พร้อมคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เพื่อศึกษางานด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลัง จ.ตราด ผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านท่าเส้น เพื่อเชื่อมต่อกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านทมอดา อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต ประเทศกัมพูชา
โดยมีเสนาธิการ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 513 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนและปัญหาความขัดแย้งในเรื่องเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศในพื้นที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ที่มีอยู่จำนวน 17 จุด
และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดได้ทำหนังสือประท้วง พร้อมหารือกับฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ซึ่งได้มีการรื้อถอนไปบางส่วนแล้ว แต่จุดที่ยังเป็นปัญหาใหญ่คือ อาคารโรงแรมที่ทำเป็นกาสิโน ที่ก่อสร้างล้ำเข้ามาในพื้นที่สันปันน้ำ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว
เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนายิกโยธินตราด ยังเผยอีกว่า นโยบายของ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เห็นด้วยกับการเปิดจุดผ่านแดนที่บ้านท่าเส้น แต่ควรจะเริ่มจากจุดผ่อนปรนก่อน จึงค่อยยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต
ทั้งนี้ พล.อ.สุรพงษ์ เผยถึงการนำคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา ลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า เพื่อรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านความมั่งคง และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นการค้าชายแดนของ จ.ตราด ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 28,000 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ยังได้รับทราบปัญหาเรื่องการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมไปถึงการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมยังได้นำคณะกรรมาธิการลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เพื่อศึกษาการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวร เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่สามารถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรได้อย่างสบาย
