สุรินทร์ - เมืองช้างจัดใหญ่งานแสดงแสงสีเสียง “สืบสานตำนานช้างไทย” 13-14 ส.ค.นี้ ภายใต้แนวคิด “เล่าขานตำนานช้างไทย คชศาสตร์คู่แผ่นดิน สืบสานหัตถศิลป์ สุรินทร์แดนผ้าไหมงาม” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อารยธรรมอีสานใต้ และอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้าง จ.สุรินทร์
วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารกิจกรรมวงเวียนพระครูปะกำ โครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในการแถลงข่าวเตรียมจัดงานการแสดงแสงสีเสียง “สืบสานตำนานช้างไทย” ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2565 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อารยธรรมอีสานใต้ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ) นโยบายของรัฐบาล ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย การสร้างสิ่งจูงใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกันหรือจัดเป็นกลุ่มได้ เช่น กลุ่มธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสุขภาพ และเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากวิถีชีวิตชุมชน เน้นให้ความรู้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่างๆ
ภายในงานแถลงข่าวมีการนำช้างแสนรู้ร่วม 10 เชือก ที่แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยงามมาร่วมในพิธีแถลงข่าวในครั้งนี้ร่วมกับชาวบ้านที่แต่งกายในชุดพื้นเมืองมาร่วมแสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของคนกับช้าง ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง
สำหรับการแสดงแสงสีเสียง “สืบสานตำนานช้างไทย” มีองก์การแสดง (ฉาก) ดังนี้ องก์ที่ 1 รอยอารยธรรมปราสาทตาเหมือน (ปราสาทสองแผ่นดิน สุรินทร์-กัมพูชา) การเดินแบบแฟชั่นโชว์ ชุดขอมโบราณ “ศิราภรณ์แห่งศรัทธา ปราสาท 2 แผ่นดิน”, องก์ที่ 2 คชสารป้องปฐพี (ยุทธหัตถี), องก์ที่ 3 การจับช้างป่า (โพนช้าง) การเดินแบบแฟชั่นโชว์ "แพรพรรณห่มแผ่นดินถิ่นวิถีชาวสุรินทร์", องก์ที่ 4 ตำนานความภักดีจารึกแผ่นดิน, องก์ที่ 5 วิถีช้าง วิถีชน ชาวสุรินทร์ และการเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดฟินาเล "มหัศจรรย์ภูษาถักทอคุณค่างานช้างสุรินทร์"
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ในอดีตประชากรประกอบด้วยชนชาติต่างๆ เช่น ชาวไทย-กูย ไทย-ลาว และไทย-เขมร ซึ่งปลูกข้าวมาแต่โบราณมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวมากมาย รวมถึงการเลี้ยงช้างเพื่อช่วยงานเกษตรกรรม และปัจจุบันเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ขาวดอกมะลิ เมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริสุทธิ์ตรงตามพันธุ์และมีปริมาณมากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งได้มีการส่งเสริมการทําเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เกษตรกรมีการปลูกข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลักจนมีชื่อเสียง ซึ่งชาวสุรินทร์กล่าวว่า “ข้าวหอม มะลิสุรินทร์ หอม ยาว ขาว นุ่ม”
สุรินทร์ยังเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าไหมมานานและได้สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมานานจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
จังหวัดสุรินทร์ยังเป็นเมืองเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีช้างเลี้ยงส่วนใหญ่ในพื้นที่ 3 อำเภอหลักๆ ประกอบด้วย อำเภอท่าตูม จำนวน 449 เชือก อำเภอชุมพลบุรี จำนวน 109 เชือก และอำเภอเมืองสุรินทร์ ประมาณ 60 กว่าเชือก ทั้งนี้ ในพื้นที่ของอำเภอท่าตูมและอำเภอชุมพลบุรี ชนพื้นเมืองชาวกูยจะนิยมเลี้ยงช้างมาแต่โบราณ มีประวัติเล่าขานสืบต่อกันมาว่ามีชาวกูย ที่เรียกกันว่า “มะ เสดียง สดำ” สมัยก่อนนิยมไปจับช้างป่ามาเลี้ยงใช้งานในชีวิตประจำวันเสมือนสมาชิกในครอบครัว และนิยมใช้ช้างซึ่งเป็นสัตว์มงคลในการแห่ตามงานประเพณีและพิธีต่างๆ โดยเฉพาะที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ประมาณ 62 กิโลเมตร ชาวบ้านนิยมเลี้ยงช้างประจำบ้านไว้เป็นจำนวนมากซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักบ้านตากลางในนาม “หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง”
นายสุวพงศ์กล่าวต่อว่า จังหวัดสุรินทร์ได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและการบริการของจังหวัดสุรินทร์มีศักยภาพในการแข่งขันและการประชาสัมพันธ์ควบคู่กับการส่งเสริมการตลาดเชื่อมโยงกับการดำเนินงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ จึงนำประวัติของชาวกูย หรือตำนานคนเลี้ยงช้างจังหวัดสุรินทร์ ชีวิตและความเป็นอยู่และการค้าขายของคนจังหวัดสุรินทร์ ในสมัยดั้งเดิมของคนสุรินทร์ การเล่าขานตำนานช้างไทย หรือตำนานของคนเลี้ยงช้างจังหวัดสุรินทร์ มาจัดงานเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวขึ้นเป็นอีกหนึ่งโครงการ เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และกระตุ้นเศรษฐกิจ รายได้และการบริการให้คนสุรินทร์เพิ่มมากยิ่งขึ้น
จังหวัดสุรินทร์ได้จัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน เพลิดเพลิน รวมทั้งชมความน่ารักของช้างสุรินทร์ ชมศิลปวัฒนธรรมประเพณี ผ่านการแสดงแสงสีเสียง งานสืบสานตำนานช้างไทยภายใต้กรอบแนวคิด “เล่าขานตำนานช้างไทย คชศาสตร์คู่แผ่นดิน สืบสานหัตถศิลป์ สุรินทร์แดนผ้าไหมงาม”
“จึงขอเชิญประชาชน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมงาน “สืบสานตำนานช้างไทย” กิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง การ พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม 2565 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ และขอความกรุณาสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่กิจกรรมงานในครั้งนี้ด้วย” นายสุวพงศ์ ผู้ว่าฯ สุรินทร์ กล่าวในตอนท้าย