ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึก! อาคารผับมรณะเกิดเพลิงปะทุอีกครั้งขณะ ผบช.ภ.2 นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจนต้องรีบถอนกำลังอย่างรวดเร็ว หวั่นเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำ จากการตรวจสอบพื้นที่ภายในเสียหายทั้งหมด ซ้ำมีการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ "เมาท์เทน บี ผับ" (MOUNTAIN B) ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องราตรีเกือบ 100 ชีวิตกำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งต้นเพลิงเริ่มจากบริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วอาคารเนื่องจากตัวหลังคามีการฉีดพ่นโฟมสำหรับซับเสียงซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย
ประกอบกับช่องระบายลมมีเพียงประตูด้านหน้าจึงยิ่งทำให้ไฟโหมไหม้รุนแรง ย่างสดนักท่องเที่ยวตายอนาถรวม 13 ชีวิต จากสาเหตุถูกไฟคลอก และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาที่โรงพยาบาลถึง 41 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วยนายตำรวจในพื้นที่ ภ.จว.ชลบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
แต่ระหว่างเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุปรากฏว่าได้เกิดเปลวเพลิงปะทุขึ้นอีกครั้งบริเวณหลังคาอาคาร จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออกทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เผยว่า จากการตรวจสอบภายในอาคารพบว่า ทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในอาคาร ชนวนซับเสียง อุปกรณ์ต่างๆ และเวที รวมถึงบริเวณฝ้าเพดานชั้นบน ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
"พบว่าทางหนีไฟยังมีปัญหาและไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการผับ บาร์ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนทางด้านทางเข้าออกของผู้มาใช้บริการนั้นพบมีเพียงการใช้ประตูด้านหน้าช่องทางเดียว อีกทั้งสถานที่นี้ยังเปิดเกินเวลา และเคยมีผู้ร้องเรียนเรื่องของการส่งเสียงดังเข้าไปแล้ว โดยยืนยันว่าจะดำเนินตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้น ขอให้รอทางพิสูจน์หลักฐานสรุปผล เพื่อที่จะยืนยันตามหลักวิทยาศาสตร์"
ส่วนป้ายทางหนีไฟจากตรวจสอบจากรูปภาพเก่าพบว่ามีติดแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของตัวอาคาร ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าบริเวณประตูไม่มีกุญแจคล้องล็อกอยู่ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีกุญแจคล้องอยู่หรือไม่ในระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ซึ่งจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง
ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยังเผยถึงการสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพนักงานในร้าน ร่วมถึงช่างไฟที่เข้ามาซ่อมไฟภายในอาคารและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงเจ้าของร้านว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบปากคำทุกคนแล้ว
จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่โยธา และเจ้าหน้าที่อำเภอสัตหีบ พบว่า ร้านดังกล่าวได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างเป็นร้านอาหาร แต่กลับพบว่ามีการต่อเติมในลักษณะปิดทึบ ซึ่งถือเป็นการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
