สุรินทร์ - เตือนโจรใจบาปขโมยหางช้าง ระวังธรณีสูบ พระสงฆ์ผู้ชำนาญด้านคชศาสตร์ยันงาช้าง หางช้าง ผู้ใดขโมยไปครอบครองมีแต่ล่มจม ระบุหางช้างมีพุทธคุณปัดรังควานหากได้มาอย่างถูกต้อง หลังมีมือดีย่องขโมยหางช้างไม่ได้ เลยทำร้ายช้างพังแม่เพียว อายุ 70 ปี บาดเจ็บที่ขา
วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายทำร้ายช้าง ชื่อ “พังแม่เพียว” อายุ 70 ปี ที่ผูกเลี้ยงไว้กลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านท่าลาด หมู่ที่ 3 ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งพบบาดแผลร่องรอยถูกของมีคมแทงบริเวณขาหลังข้างขวา 2 แห่ง แต่แผลไม่ลึกมาก
นายอานนท์ โคตรวงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าของช้าง ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาตนได้นำอาหารมาให้ช้างแล้วสังเกตว่าช้างมีท่าทางเหมือนเจ็บที่ขาหลังด้านขวา พอมองดูก็เห็นเหมือนมีบาดแผลและมีเลือดไหลออกที่ช่วงเล็บของช้าง ตนรู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น และได้มองหาแถวบริเวณนั้นว่ามีอะไรพอที่จะทำให้เกิดบาดแผลได้หรือเปล่า แต่เป็นไปไม่ได้เพราะตรงที่ผูกช้างไว้เป็นที่โล่ง
ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะมีผู้ที่ไม่หวังดีแอบมาขโมยเพื่อที่จะตัดขนหางของพังแม่เพียว เพราะขนหางของพังแม่เพียวนั้นสวยและมีหางหงอกด้วย เป็นที่ต้องการของคนอยากได้และมีราคา ที่หลายคนต้องการ และเป็นสิ่งของที่หายาก เพราะช้างของตัวเองนั้นเป็นช้างที่เชื่องไม่ทำร้ายคน แต่เนื่องจากว่าช้างพังแม่เพียวจะหวงหางของตัวเองมาก อาจมีคนพยายามตัดเอาขนหางช้างแต่ว่าตัดไม่ได้ เลยใช้ของมีคมแทงไปที่ขาของช้างแม่เพียวจนเกิดบาดแผลดังกล่าว ตนไม่ได้ติดใจและไม่ได้ไปแจ้งความ แต่อยากให้คนที่มีช้างให้ระมัดระวังเฝ้าดูแลช้างของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับช้างของใครอีก
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ หลวงพ่อ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง บ.หนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม อยู่ติดกับพื้นที่โครงการคชอาณาจักร หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ.ตากลาง ต.กระโพ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ในด้านคชศาสตร์ พร้อมกับสอบถามหลวงพ่อถึงพุทธคุณของหางช้างว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นมาเป็นไปอย่างไร จึงมักจะมีผู้คนชอบนำเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับช้างไปสวมใส่
หลวงพ่อ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง กล่าวว่า เรื่องความเชื่อของหางช้าง มีเรื่องเล่ามาจากนางผมหอม ในสมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระยาช้างโพธิสัตว์ ซึ่งพระยาช้างเป็นห่วงลูกสาว เมื่อแต่งงานแล้วสักวันต้องไปอยู่กับปู่ย่าฝ่ายสามี และตัวเองก็เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ในป่า ไม่สามารถที่จะตามลูกสาวไปได้ ก็มีความคิดห่วงกังวลว่าคนเรามีแยกชั้นวรรณะกัน หากคนด้วยกันยังไม่ยอมรับกันเรื่องฐานะ ถ้าเขาทราบว่าลูกสาวตนเองเป็นลูกสาวสัตว์เดรัจฉาน ก็ยิ่งแต่จะไม่ยอมรับเลย กลัวปู่ย่าครอบครัวฝ่ายสามีจะไม่ยอมรับ และไม่มีสมบัติอะไรให้ลูก เลยให้เอาหางช้างไป เอางาไป
ส่วนหางที่เอาไป ถ้าลูกสาวไม่สบายก็ให้เอาไปปัดรังควาน เอาไปจุ่มพรมน้ำมนต์ปัดให้ลูกให้หลาน หรือแทนเส้นด้ายสายสิญจน์ผูกแขนเรียกขวัญให้ลูกหลาน ยามลูกหลานตกใจและเจ็บไข้ได้ป่วย นี่คือสรรพคุณ แต่ว่าสิ่งที่ได้มาทุกอย่างนั้นจะต้องได้มาจากสิ่งที่เขาให้ ถึงจะมีพุทธคุณ แต่ถ้าเราไปลักขโมยยังไงก็ไม่ได้ ไม่มีพุทธคุณแล้ว ยังถูกสาปแช่งอีกด้วย
เพราะฉะนั้นการที่ไปขโมยตัดงาโดยที่เจ้าของและช้างไม่อนุญาต นอกจากจะไม่รู้บุญคุณของผู้ให้ผู้รับแล้ว ยังเป็นโทษต่อผู้รับอีก เพราะฉะนั้นขนช้างที่เขาให้คือ ร่วงเอง หรือไปขอขมาลาโทษเอา จะต้องมีวันฤกษ์งามยามดี มีพิธีตัด ถึงจะได้เป็นมงคลและมีพุทธคุณ งาช้างก็เช่นเดียวกัน งากระเด็น งากัดกำจายคือเขาให้ จะมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว
"หากไปฆ่าเอามานอกจากจะไม่มีคุณแล้วเป็นโทษต่อผู้ทำ ผู้ได้อีก เพาะฉะนั้นที่เห็นว่าหลายคนได้งาช้างแล้วอยู่ไม่ได้ เอาไปขายต่อๆ อยู่เรื่อย เพราะไม่มีใครรักษาเอาไว้ได้ เขาให้ถึงจะได้ อาตมาขอฝากถึงผู้ที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย เช่น ลักหางช้าง ขโมยตัดงาช้างก็ตาม นอกจากจะไม่เป็นมงคลต่อตนเองแล้ว ในพุทธศาสนา พระไตรปิฎกบอกว่าจะถูกแผ่นดินสูบ ยกตัวอย่าง พระพุทธเจ้าเป็นพระยาช้างโพธิสัตว์ เทวทัต เป็นนายพราน ทุกภพทุกชาติไปฆ่าช้างเอางา จะถูกแผ่นดินสูบทั้งนั้นเลย ไม่ควรคิดไม่ควรจะทำ คนที่ได้ไปก็ไม่ควรเอา คนซื้อก็ไม่เป็นมงคล คนขายก็ไม่เป็นมงคล คนขโมยก็ไม่เป็นมงคล ทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง บางคนที่ร่ำรวย ซื้องาช้างที่เขาฆ่าเอางา ล่มจมไปเยอะแยะมากมาย ขอฝากขโมยทั้งหลายอย่าคิดทำเลย" หลวงพ่อกล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจร้านจำหน่ายเครื่องประดับเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นแหวนและกำไลหางช้าง สร้อย-กำไลงาช้าง และกระดูกช้าง รวมไปถึงขอบังคับช้างที่มีหลายขนาด ภายในร้านธนาพร ตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้าศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ (คด-ชะ-สึก-สา) บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม พบว่าแหวนหางช้างจะมีราคาตั้งแต่ 150 บาท ถึงหลักหลายร้อยบาท ส่วนกำไลหางช้างหลักพันบาทขึ้นไป ส่วนหางช้างหงอกสีขาว ก็จะมีราคาที่แพงขึ้นตามลำดับ เพราะเชื่อว่ามีพุทธคุณและความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า
ส่วนเครื่องประดับที่ทำมาจากงาช้างนั้น มีราคาสูงและแพงกว่าหางช้างและมีหลายราคา อยู่ที่ขนาดและแบบลวดลาย เจ้าของร้านยืนยันว่าเครื่องประดับเกี่ยวกับช้างทั้งหมด เป็นของที่ได้มาอย่างถูกต้อง มีการทำพิธีอย่างถูกต้องและมีพุทธคุณตามความเชื่อ หากประชาชนและนักทองเที่ยวที่สนใจ สามารถเดินทางแวะเข้ามาเที่ยวดูวิถีชีวิตของคนกับช้างและการแสดงช้างแสนรู้ได้ทุกวันที่นี่ และยังมีอีกหลายร้านให้เลือกซื้อตามใจชอบอีกด้วย