ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รวบแล้ว โจรเป๋บุกเดี่ยวจี้ร้านทองกลางเมืองโคราช ที่แท้เป็น นศ.ปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดัง พร้อมแกล้งขาเป๋ก่อเหตุหวังตบตาตำรวจและใช้ปืนปลอม อ้างต้องการหาเงินทุนปลูกกัญชาขาย ตำรวจแกะรอยขโมยจยย.มาก่อเหตุจนจับตัวได้พร้อมของกลางสร้อยทอง 5 เส้นหนัก 5 บาท ฝังดินในไร่มันฯ
วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายเดินขาเป๋ควงอาวุธปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองในร้านห้างทองแสงมณี ถนนจอมพล เขตเทศบาลนครราชสีมา โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานของร้านให้หยิบสร้อยคอทองคำใส่ถุงดำให้ ได้สร้อยคอทองคำไป 5 เส้น ขนาดเส้นละ 1 บาท รวมน้ำหนักทอง 5 บาท มูลค่ากว่า 150,000 บาท ก่อนวิ่งออกจากร้านขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2565 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมตำรวจชุดจับกุม ได้แถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองแสงมณี พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ 5 เส้น ขนาดน้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวมน้ำหนัก 5 บาท และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ( ภ.จว.) นครราชสีมา ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้แกะรอยไล่ล่าติดตามคนร้ายจนพบเบาะแสว่าคนร้ายได้ขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเทาแดง มาจากพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อมาใช้ก่อเหตุแล้วนำไปจอดทิ้งไว้ ตำรวจจึงแกะรอยจากภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจนทราบตัวคนร้าย และติดตามจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา
ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายพรเทพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา จึงนำตัวมาสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง อ้างต้องการนำเงินมาใช้เป็นทุนในการปลูกกัญชาขาย
โดยระหว่างก่อเหตุบุกชิงทอง ได้แกล้งทำเป็นเดินขาเป๋เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ให้สับสนไม่สามารถติดตามจับกุมได้ ก่อนนำสร้อยคอทองคำ 5 เส้นที่จี้มาได้ไปฝังดินไว้บริเวณไร่มันสำปะหลังใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ศึกษาอยู่ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม หลังคนร้ายเปิดปากรับสารภาพ ตำรวจได้นำตัวไปค้นหาของกลางที่ไร่มันสำปะหลังดังกล่าว ได้สร้อยคอทองคำกลับคืนมาครบทั้ง 5 เส้น