ศรีสะเกษ - แค้นสะสม หนุ่มบุกกระหน่ำยิงพี่สะใภ้ในบ้านต่อหน้าลูก 2 คน 3 นัดหวังปิดบัญชีแค้น กระสุนเข้าที่ศีรษะอาการสาหัส ล่าสุด รพ.ศรีสะเกษส่งต่อรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลฯ เผยทั้งคู่ทะเลาะกันประจำ เคยใช้อาวุธปืนยิงกันมาแล้วก่อนเกิดเหตุครั้งนี้
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.อ.วิระสิทธิ์ อุปฮาด ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 8 บ้านโนนอีปัง ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพนเขวา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดกองอยู่ในบ้าน ส่วนผู้ที่ถูกยิงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ศรีสะเกษได้รีบนำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ก. (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ผู้ที่ถูกยิงชื่อ น.ส.รังษี จรัญกลาง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ที่เกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.รังษีนอนอยู่บนเปลที่ผูกอยู่ในบ้าน โดยมีลูกชายและลูกสาว 2 คนนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ กัน จากนั้นได้มีคนร้ายเดินเข้ามาในบ้านและใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่ น.ส.รังษี จำนวนประมาณ 3 นัด ซึ่ง น.ส.รังษีโดนยิง 2 นัดที่บริเวณศีรษะติดกับใบหู 1 นัด และที่บริเวณต้นขาขวา 1 นัด
ส่วนมือปืนรายนี้ชื่อ นายสุรชัย ปักษา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ 8 ต.หนองแก้ว มีศักดิ์เป็นน้องสามีของ น.ส.รังษี มีบ้านอยู่ใกล้กันและได้ย้ายไปอยู่ที่นานานแล้ว โดยทั้ง 2 คนมักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ จนถึงกับมีการใช้อาวุธปืนยิงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ญาติไกล่เกลี่ยยอมความกันได้เพราะเห็นว่าเป็นญาติกัน
หลังจากนั้น น.ส.รังษีก็มีเรื่องทะเลาะกันกับคนร้ายรายนี้มาอีกหลายครั้ง ทำให้คนร้ายเก็บความแค้นเอาไว้ และได้มาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.รังษี ต่อหน้าลูก 2 คน เพื่อหวังปิดบัญชีแค้นในครั้งนี้ ซึ่ง ร.ต.อ.วิระสิทธิ์ อุปฮาด ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
ทางด้าน นายเพียร โคสารคูณ อายุ 54 ปี พ่อสามีของ น.ส.รังษี กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีการยิงกันในครั้งนี้เกิดจากอะไร แต่ญาติพี่น้องกันไม่น่าทำรุนแรงกันมากขนาดนี้เลย คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า สำหรับอาการของ น.ส.รังษีที่ถูกยิงนั้น แพทย์ รพ.ศรีสะเกษได้ทำการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว และพบว่าอาการสาหัสมาก จึงได้ส่งตัว น.ส.รังษีต่อไปที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนต่อไป
