สุโขทัย - สุดยอดน้ำใจยามยาก..ชาวบ้านผู้โดยสาร “รถคอกหมู” สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก พร้อมใจควักจ่ายค่ารถเพิ่มโดยเจ้าของรถไม่ต้องร้องขอ บางคนจ่ายเพิ่มเป็นเท่าตัวไม่ต้องทอน หวังให้ต่อลมหายใจวิ่งให้บริการยามวิกฤต
วันนี้ (30 ก.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรถโดยสารคอกหมู หรือรถสองแถวไม้ เอกลักษณ์ของสุโขทัยที่มีมายาวนานถึง 85 ปี ต้องเผชิญกับวิกฤตรอบด้าน ทั้งการระบาดของโรคโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำและน้ำมันแพง ประกอบกับคนใช้บริการเหลือน้อยเพราะส่วนใหญ่มีรถส่วนตัวใช้กัน ทำให้ทุกวันนี้รถคอกหมูจวนสิ้นลมหายใจ และจ่อปิดตำนานอย่างถาวร
แต่ทว่าก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ในยามวิกฤตของ “รถคอกหมู” ที่วิ่งสายกงไกรลาศ-พิษณุโลก เมื่อชาวบ้านผู้ใช้บริการที่เหลืออยู่จำนวนน้อยนั้นมีความเต็มใจและพร้อมใจกันจ่ายเงินค่าโดยสารเพิ่มให้เอง โดยเจ้าของรถไม่ได้ร้องขอ ซึ่งแสดงถึงความผูกพัน ห่วงใย และความมีน้ำใจต่อกันระหว่างชาวบ้านผู้โดยสารกับรถคอกหมู
นายสละ ชูเที่ยง อายุ 63 ปี และนางนงเยาว์ ชูเที่ยง อายุ 60 ปี เจ้าของรถโดยสารคอกหมู ชาว อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย บอกว่า ขับรถวิ่งเส้นทางสายกงไกรลาศ-พิษณุโลกมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ปัญหาเริ่มมีหนักขึ้นเมื่อปี 2563 หลังเกิดโรคโควิด แล้วตามด้วยราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซ้ำปุ๋ยแพง น้ำมันแพง ทำให้ชาวนาส่วนมากที่นั่งรถเพื่อมาซื้อของในตัวเมืองก็ไม่มี
ผู้โดยสารทุกวันนี้จึงเหลือแต่แม่ค้า กับคนทำงานรับจ้างจำนวนน้อย ทำให้วิ่งรถบางวันก็ขาดทุน แต่ก็ต้องวิ่งตามหน้าที่ เพื่อให้คนที่ไม่มีรถส่วนตัวได้นั่งมาทำงาน และซื้อของในตัวเมืองพิษณุโลก จนพวกเขาเห็นใจและสงสารที่ต้องแบกภาระค่าน้ำมันแพง จึงเพิ่มค่าโดยสารให้เองโดยไม่ได้ร้องขอใดๆ จากปกติ 25 บาท ก็ให้เพิ่มเป็น 30 บาท บางคนให้ 50 บาทก็มี
นายสละบอกอีกว่า เมื่อก่อนมีรถคอกหมูวิ่งประจำทางสายนี้ทั้งหมด 32 คัน ปัจจุบันเหลือ 22 คัน แต่มีมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารจริงๆ แค่ 8-9 คันเพราะไม่คุ้มค่าน้ำมัน โดยจะผลัดกันวิ่งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และ 1 วันจะมีรถวิ่ง 2 เที่ยว คือ รอบออกจากพิษณุโลกกลับกงไกรลาศ เวลา 09.00 น. กับช่วง 11.00 น. แต่วันอาทิตย์จะมีวิ่งแค่รอบเดียว
ขณะที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุ และนั่งรถคอกหมูมาตลอด 30-50 ปี บอกว่า อยากให้รถคอกหมูได้วิ่งโดยสารไปนานๆ เพราะสะดวก ราคาถูก นั่งเย็นสบายใจ และปลอดภัย จึงไม่อยากให้หยุดวิ่ง แต่ก็เข้าใจว่าเจ้าของรถต้องแบกภาระทั้งน้ำมันแพง และคนใช้บริการเหลือน้อย ก็เลยพร้อมใจกันเพิ่มค่าโดยสารให้เอง