เชียงใหม่ - ฮือฮาโรงเรียนในเชียงใหม่ให้เด็กใส่ชุดคอสเพลย์มาเรียนได้ หลายคนจัดเต็มตามแบบการ์ตูนญี่ปุ่นจนเป็นกระแสบนโลกโซเชียล ผอ.เผยเป็นแนวคิดเสรีภาพสร้างวินัย ทำมา 20 ปี สถิติเด็กๆ ชอบมาเรียนวันนี้มากสุด
เป็นกระแสที่กล่าวถึงกันในโลกโซเชียลฯ เมื่อวิทยาลัยพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนสายอาชีพตั้งแต่ระดับ ปวช.ถึง ปวส. อนุญาตให้นักเรียนใส่ชุดคอสเพลย์การ์ตูนดังประเทศญี่ปุ่นมาเรียนได้
และเมื่อเดินทางไปตรวจสอบถึงวิทยาลัยพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ ซึ่งพบนักเรียนกำลังเดินทางมาเรียนตามปกติ โดยสวมชุดที่หลากหลาย ทั้งชุดลำลอง ชุดกีฬา ชุดเที่ยว รวมไปถึงชุดประจำของชนเผ่าชาติพันธุ์ บางส่วนสวมชุดคอสเพลย์แบบจัดเต็มจากการ์ตูนดังหลายเรื่อง ทั้งดาบพิฆาตอสูร โตเกียวรีเวนเจอร์ และอื่นๆ อีกหลายเรื่อง มาเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธงก่อนเข้าเรียน
ดร.ธนภัทร มั่นคง ผู้อำนวยการวิทยาลัยพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ เปิดเผยว่า โรงเรียนหรือวิทยาลัยเราได้ให้เด็กใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียนได้ตั้งแต่เราเริ่มก่อตั้งโรงเรียนปีพุทธศักราช 2544 ภายใต้แนวคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้เด็กมีความสุขในการเรียนแล้วก็สอนเรื่องวินัยแก่เด็ก ให้เขามีวินัยด้วยตัวเองได้ จึงได้ใช้หลักคิด เสรีภาพสร้างวินัย คือคำว่าเสรีภาพสร้างวินัย ก็คือเราเปิดโอกาสให้เด็กใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียนได้ ปล่อยให้เขาคิดเองว่าชุดที่เขาใส่มานั้นมันสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองไหม มันผิดกติกาผิดระเบียบของสังคมไหม ใส่แล้วเป็นอย่างไร ก็เปิดโอกาสให้เขาเรียนรู้เองผ่านการสร้างเสรีภาพ
“เด็กๆ ที่นี่เลยได้ใส่ชุดไปรเวตหรือชุดตามสบายมาโรงเรียนของเราตั้งแต่ปี 2544 นับเป็นเวลา 20 ปีแล้วที่เราส่งเสริมเรื่องนี้มา ให้เขาใส่ชุดตามที่เขาอยากใส่ในวันทุกๆ วันอังคาร ซึ่งเด็กก็มีความสุขในการมาเรียนในทุกวันอังคาร เราเรียกว่าชุดเพลย์เดย์ ส่วนคอสเพลย์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น”
ขณะที่วันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี และวันศุกร์ ก็เป็นการใส่ชุดตามปกติแยกสาขา นักศึกษาช่างก็จะมีเสื้อชอปช่างของตัวเอง ชุดพาณิชย์ก็จะเป็นชุดนักศึกษาทางฝั่งของพาณิชย์ และทุกๆ วันพฤหัสบดีก็จะมีชุดอัตลักษณ์ซึ่งก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เด็กช่างจะได้ใส่สูทผูกไท เด็กเองก็จะได้ฝึกการเรียนรู้ผ่านการใส่เครื่องแบบในแต่ละวันที่แตกต่างกันไป เป็นการสร้างเสรีภาพที่งดงามให้แก่เด็ก
“ผลตอบรับเห็นได้ชัดคือ เด็กมีความสุข ทุกๆ วันอังคารที่เราเปิดโอกาสให้ใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียนและมีการเก็บสถิติการมาเรียน เด็กๆ ขาดเรียนน้อยมาก แล้วก็เป็นวันที่เขารอคอยในแต่ละสัปดาห์ที่จะใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียน อย่างชุดคอสเพลย์นี่ เราต้องเข้าใจอย่างนี้ก่อนว่าเด็กคนหนึ่งใส่ชุดคอสเพลย์ออกจากบ้านมาโรงเรียน เขาต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนกว่าจะมาถึงโรงเรียนได้ เพราะฉะนั้นถ้าโรงเรียนส่งเสริมให้เขามีความกล้าแสดงออกได้ขนาดนั้น คิดว่าโรงเรียนประสบความสำเร็จ ในการสร้างความแตกต่างอย่างสวยงามให้แก่เด็กๆ แล้ว”