ลำพูน - เหยื่อเงินกู้นอกระบบลำพูนโผล่อีก..เผยเจ้าหนี้โหดจ้างคนสะกดรอยตามลูกหนี้จากบ้านก่อนใช้ทุเรียนตบหน้ากลางวันแสกๆ คาถนนรอบเมืองลำพูนจนได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียหายแจ้งความคดีไม่คืบ แถมเคยบุกข่มขู่ ทวงหนี้ถึงบ้านจนผวาทั้งครอบครัว
นางดวงเดือน (นามสมมติ) ชาวบ้าน อ.เมือง จ.ลำพูน โชว์รอยแผลเป็นที่แขน และใบหน้าให้ผู้สื่อข่าวดูหลังจากถูกหญิงสาวรูปร่างสูงใหญ่เข้ามาทำร้ายขณะที่จอดรถคุยโทรศัพท์กับญาติที่หน้าวัดช้างรอง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน จนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบหน้า ก่อนพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์จะเข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งที่บ้านเพื่อทำแผล
ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาเที่ยงเศษของวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปธุระในตัวเมืองลำพูน เมื่อขี่รถไปถึงหน้าวัดช้างรอง ได้จอดคุยโทรศัพท์กับญาติ ระหว่างนั้นถูกผู้หญิงรูปร่างสูงใหญ่ปรี่เข้ามาทำร้าย ทั้งตบที่หน้าด้วยวัตถุชนิดหนึ่งคล้ายกับของมีหนามแหลม ตีโดนที่ใบหน้าและแขนขวาจนล้มลงกับพื้นทำให้เลือดอาบหน้า
หลังจากนั้นพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเข้าใจว่าตนประสบอุบัติเหตุ แต่ตนบอกว่าถูกผู้หญิงที่เดินขึ้นรถกระบะหลบหนีไปทำร้าย ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จดหมายเลขทะเบียนรถผู้ก่อเหตุได้ เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 1 ขพ 9385 ไม่ทราบจังหวัด
หลังเกิดเหตุพลเมืองดีได้นำตัวมาส่งที่บ้านเพื่อล้างคราบเลือด ก่อนที่ตนจะไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองลำพูน พร้อมนำรายละเอียดรถยนต์ต้องสงสัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเดินทางไปโรงพยาบาล ให้แพทย์ตรวจร่างกาย พบเป็นรอยข่วนที่ใบหน้าและแขนขวาเหมือนหนามเกี่ยว
นางดวงเดือนกล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ร่วมกับนางสาลี ที่ถูกเจ้าหนี้คุกคามถึงบ้านและทำลายข้าวของตามที่เป็นข่าวไปแล้ว กู้เงินนายทุนเป็นผู้หญิงรายหนึ่งชื่อ “นางสาวเงิน (นามสมมติ) ที่เปิดร้านอยู่บริเวณสะพานท่านาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน ต่อมานางสาลีได้เข้ามาพูดคุยกับตนเรื่องยอดหนี้ที่สูงและไม่สามารถผ่อนจ่ายรายวันได้และหลบหนีออกจากบ้านไป เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 17 กรกฎาคมตนก็ถูกดักทำร้ายร่างกาย
จากนั้นตนได้สอบถามรายละเอียดจากเพื่อนๆ ที่กู้เงินจากนายทุนผู้หญิงรายนี้ ได้ข้อมูลมาว่าน่าจะเป็นนายทุนเงินกู้รายดังกล่าวที่จ้างลูกหนี้อีกรายที่อาศัยอยู่บ้านเอื้ออาทรในตัวเมืองลำพูน มาดักทำร้ายตน ส่วนสาเหตุคาดว่านายทุนคนดังกล่าวเข้าใจผิดคิดว่าตนยุยงให้นางสาลีหลบหนีไม่จ่ายหนี้ เนื่องจากก่อนที่นางสาลีจะหายตัวไปเพียง 1 วันได้มาหาตนที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเกือบ 10 วันยังไม่มีความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ตนอยู่ด้วยความหวาดผวา เกรงว่าจะถูกทำร้ายอีก เนื่องจากต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดไปขายของที่ตลาดทุกวัน
นางดวงเดือนได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณ 1 ปีเศษที่ผ่านมาตนได้กู้เงินมาจากนางสาวเงิน จำนวน 2 หมื่นบาท เพื่อมาลงทุนค้าขาย แต่ได้เงินมาไม่ครบเนื่องจากโดนหักค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าและค่าดำเนินการก่อนผ่อนจ่ายรายวัน ซึ่งช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดขายของไม่ดีจนเงินไม่พอส่ง หลายครั้งที่นางสาวเงิน ได้บุกมาทวงเงินค่างวดถึงบ้านพร้อมข่มขู่ทำร้ายสารพัด
จนเวลาล่วงเลยไปนางสาวเงินได้นำเงินกู้จากแหล่งอื่นมาโปะหนี้เก่าอีกหลายครั้ง ครั้งละ 5 หมื่น และ 1 แสนบาท ทำให้ดอกเบี้ยและเงินต้นเพิ่มขึ้นจนเป็นหนี้เกือบ 7 แสนบาท ต้องผ่อนรายวันวันละ 2 หมื่นบาท เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนและเพื่อนอีก 2 คนเข้าพูดคุยเจรจากับเจ้าหนี้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่ง จนตกลงกันได้ แล้วเรื่องเงียบไปสักพักหนึ่ง
กระทั่งก่อนหน้านี้นางสาวเงินได้ทวงเก็บเงินค่าดอกเบี้ยตนวันละหมื่นกว่าบาทจนเกิดการทะเลาะกัน ตนบอกว่าเป็นเงินค่างวดที่แพงเกินจริง และมีเงินจ่ายเพียงวันละ 1 พันบาทเท่านั้น แต่นางสาวเงินจะเอาเงินจำนวนดังกล่าวให้ได้จึงได้ให้ลูกน้องซื้อเบียร์มาส่งที่บ้านตนโดยบอกว่าจะนั่งดื่มเบียร์รอจนกว่าตนจะจ่ายเงินให้ จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเจรจาเป็นเวลานานจนนางสาวเงินกลับไปในที่สุด
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอข้อมูลกับลูกหนี้รายหนึ่งที่กู้ยืมเงินนางสาวเงิน พบว่าก่อนหน้านี้ถูกนางสาวเงินพร้อมกับลูกน้อง เดินทางมาทวงหนี้ที่บ้าน ทั้งโวยวายด่าทอ นอกจากนี้ยังพกมีดมาข่มขู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ พร้อมกับเดินทางไป สภ.เมืองลำพูน แจ้งความเอาผิดนางสาวเงิน ซึ่งทราบว่ายังมีลูกหนี้อีกหลายรายที่ถูกนางสาวเงินทวงหนี้และข่มขู่ถึงบ้าน บางครั้งจะพาชายฉกรรจ์ติดตามไปด้วยทำให้ลูกหนี้เกิดความหวาดกลัวเกรงจะได้รับอันตรายจนต้องพาครอบครัวหลบหนีไปแล้วหลายรายด้วย
