xs
xsm
sm
md
lg

ตี 2 ตี 3 เสียงดังสนั่นทั้งตำบล! พบหมู่บ้านที่มี “รถอีแต๋น” มากที่สุดในสุโขทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุโขทัย - ที่นี่รถหรูชิดซ้าย..ตามดูหมู่บ้านที่มีรถอีแต๋นมากที่สุดในสุโขทัย คาดทั้ง 8 หมู่บ้าน 3,000 กว่าหลังคามีใช้ไม่ต่ำกว่า 3 พันคัน บางบ้านมี 2-5 คันด้วยซ้ำ บอกสารพัดประโยชน์ทั้งบรรทุกข้าวของ-พืชผล พาคนไปหาหมอ เข้าเมือง ลุยน้ำลุยโคลนได้หมด


คนที่เคยเดินทางผ่าน ต.หนองกลับ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ทั้งกลางวัน-กลางคืน จะพบว่า..ที่นี่เต็มไปด้วยรถอีแต๋น หรือรถไทยแลนด์ ชนิดที่ว่าทุกหลังคาเรือนจะมีรถอีแต๋นจอดไว้ในบริเวณบ้านอย่างน้อยก็ 1 คัน บนท้องถนนตลอดจนทุกตรอกซอกซอยก็มักจะเจอรถอีแต๋นวิ่งสวนไปมาทุกระยะ จนกล่าวได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีรถอีแต๋นมากที่สุดในสุโขทัยด้วยซ้ำ

นายวีระพงศ์ บานแย้ม อายุ 54 ปี เกษตรกรบ้านหนองกลับ บอกว่า ตำบลหนองกลับมีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน เกือบ 3,000 ครัวเรือน ประกอบอาชีพหลักคือทำนาปลูกข้าว อาชีพรองคือปลูกข้าวโพดหวาน ทำไร่ยาสูบ ปลูกแตงโม คนที่นี่จะตื่นนอนกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านไปไร่ไปนา และรถการเกษตรที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ รถอีแต๋น หรือรถไทยแลนด์ ซึ่งน่าจะมีมากเกือบ 3,000 คัน ตามจำนวนหลังคาในหมู่บ้าน-ตำบล

“ที่นี่เขาใช้รถอีแต๋นกันมานานหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่ตนอายุ 5-6 ขวบ พ่อก็มีอีแต๋นแล้ว แต่ที่มากจริงๆ ก็ช่วง 20 กว่าปีมานี้ ทุกบ้านอย่างน้อยต้องมี 1 คัน ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาบาทสองบาท คันหนึ่งตกอย่างต่ำก็ราคา 300,000-350,000 บาท บางบ้านมี 2-5 คัน เพราะเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ทำมาหากิน และนิยมกันมากก็เพราะมันสะดวก ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ ทั้งบรรทุกพืชผลการเกษตร ขนท่อสูบน้ำ ขนโครงรถไถ พาคนไปหาหมอ ซื้อของในเมือง ลุยน้ำลุยโคลนได้ และคนหมู่บ้านนี้ไม่นิยมปลูกเถียงนาน้อย ไปเฝ้าไร่เฝ้านาจึงอาศัยกางมุ้ง-กิน-นอนกันบนรถอีแต๋นเป็นหลัก”

นางสมบุญ หาญกล้า อายุ 48 ปี เจ้าของอู่ธวัชชัยยนต์ บอกว่า คนหนองกลับนิยมใช้รถอีแต๋นก็เพราะสะดวก ลุยได้ทุกที่ ใช้ประโยชน์ได้สารพัด ซึ่งตนเปิดอู่ต่อรถอีแต๋นอยู่ในหมู่บ้านหนองกลับมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยปัจจุบันราคาต่อใหม่จะอยู่ที่คันละ 140,000 บาท ก็จะได้โครง ทำสีใหม่ เดินระบบไฟให้เสร็จ ส่วนกระบะกับเครื่องยนต์ต้องซื้อมาใส่เอง

ทั้งนี้ “หนองกลับ” ยังเป็นชุมชนที่มีธรรมเนียมประเพณีแปลกแตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างใครอยากแต่งงานกับหญิงสาวในหมู่บ้านแห่งนี้จะต้องมาสร้าง “บ้านสินสอด” 1 หลังบนที่ดินของฝ่ายหญิง พร้อมมอบเงินจำนวน 49 ถึง 1,099 บาท เพื่อเป็นค่าสินสอด ซึ่งชาวบ้านหนองกลับยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานานกว่า 100 ปีแล้วด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น