xs
xsm
sm
md
lg

จบลงด้วยดี! ยาย-หลานสาวลูกครึ่งโผกอดกันร้องไห้ หลัง พมจ.รุดไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - เจ้าหน้าที่ พมจ.บุรีรัมย์ ร่วมกับหลายหน่วยงานลงพื้นที่ไกล่เกลี่ยหาทางออกปมชาวบ้านร้องยายแท้ๆ ทุบตีหลานสาวลูกครึ่ง หลังพูดคุยเกือบ 2 ชม. ทั้งยายและหลานสาวก็เข้าใจกันดีต่างโผเข้ากอดกันร้องไห้ เผยปมปัญหาเพราะการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน หลานรับปากจะไม่ดื้อ ส่วนยายก็จะไม่ทำโทษหลานอีก

ความคืบหน้ากรณีที่เพื่อนบ้านร้องเรียนว่ามียายแท้ๆ คนหนึ่งทุบตีหลานสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อายุ 17 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เป็นประจำตลอด 2 ปี จนมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย ล่าสุดใช้สายไฟฟาดจนหลานทนไม่ไหวต้องหนีออกไปอยู่บ้านคนอื่น ขณะที่ยายยืนยันว่าตีหลานแค่ 2 ครั้ง เพราะหลานดื้อทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ตักเตือนแล้วก็ไม่เชื่อฟัง จึงต้องทำโทษในฐานะผู้ปกครองที่อบรมสั่งสอนหลานเพราะอยากให้เป็นคนดีเท่านั้น แต่ไม่เจตนาจะทำรุนแรง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) บุรีรัมย์ พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด, เทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่พูดคุยไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน กรณีที่มีการร้องเรียนว่ายายแท้ๆ ทำร้ายหลานสาว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการพูดคุยสอบถามข้อมูลจากทั้งผู้เป็นยาย และหลานสาว เกี่ยวกับปมปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ร่วมกันหาทางออกและยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในครอบครัว


จากการพูดคุยประมาณ 2 ชม. พบว่าปัญหาเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน โดยยายยืนยันว่าที่ดุด่าหรือทำโทษหลานเพราะเป็นห่วงเพราะหลานดื้อ ส่วนหลานอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่อาจทำอะไรตามใจ แต่เมื่อได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว ทั้งสองก็เข้าใจกันดี โดยหลานได้เข้าไปกราบขอโทษยาย ส่วนยายโผเข้ากอดหลานและบอกหลานว่าจะไม่ทำโทษหลานรุนแรงอีก ต่างคนต่างร้องไห้เป็นภาพที่สร้างความดีใจแก่ทุกคนที่ยายหลานเข้าใจกันและรักกันเหมือนเดิม

น.ส.ทองทิพย์ ภูสีมา นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่อาจไม่เข้าใจกันระหว่างยายกับหลาน แต่ยังสามารถที่จะพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ยังไม่ได้รุนแรงมาก ซึ่งจากการสอบถามคุณยาย บอกว่าที่ทำไปเพราะด้วยความรักและเป็นห่วงหลาน แต่อาจจะใช้ภาษาหรือคำพูดที่รุนแรงใส่กัน ส่วนหลานก็อาจอยู่ในช่วงที่เป็นวัยรุ่นอาจจะทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมบ้าง แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาช่วยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วทั้งสองก็เข้าใจกันดี


ส่วนในระยะยาวทาง พมจ.จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหางานทำในพื้นที่จังหวัดเผื่อในอนาคตแม่อยากจะกลับมาทำงานใกล้บ้าน จะได้ช่วยดูแลและให้ความอบอุ่นแก่น้องในอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่ผู้เป็นยายบอกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่มาช่วยพูดคุยปรับความเข้าใจตนกับหลานก็เข้าใจกันมากขึ้น ในฐานะยายก็ดีใจ และหลังจากนี้จะพยายามพูดคุยกันให้มากขึ้น และรับปากว่าจะไม่ทำโทษหลานรุนแรงแบบนี้อีก หากหลานดื้อจะใช้วิธีการตักเตือน หรือให้แม่ของเขาเป็นคนดูแลอีกทางหนึ่งด้วย แต่ยืนยันว่าที่ทำไปเพราะรักและห่วงหลาน






กำลังโหลดความคิดเห็น