มุกดาหาร - ธ.ก.ส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจัดเวิร์กชอปโครงการเชื่อมโยงและพัฒนาธุรกิจห่วงโซ่โคเนื้อร่วมกับเครือข่ายธุรกิจ หวังยกระดับอาชีพเลี้ยงโคเนื้อให้เติบโตเข้มแข็งอย่างมีประสิทธิภาพ สนองตลาดทั้งภายใน และส่งออกได้เพียงพอ
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องดุสิตา โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ โฮเทล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดเวิร์กชอปโครงการเชื่อมโยงและพัฒนาธุรกิจห่วงโซ่โคเนื้อร่วมกับเครือข่ายธุรกิจ โดยเชิญเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และผู้ประกอบการ ที่มีอาชีพเลี้ยงโคเนื้อเข้าร่วมอบรม
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา และยกระดับการประกอบอาชีพ ตลอดจนเสริมสร้างห่วงโซ่โคเนื้อให้เติบโต เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะโคขุนเกรดพรีเมียม ที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมในการบริโภคเพิ่มมากขึ้น
นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร สกลนคร นครพนม คณะเกษตรและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยนครพนม จัดเวิร์กชอปในประเด็นดังกล่าวขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรที่มีอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการเลี้ยงโคเนื้อของประเทศให้มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งภายใน และต่างประเทศ
โดยเฉพาะประเทศจีนนั้นมีความต้องการเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยผลิตได้ไม่เพียงพอทำให้ ธ.ก.ส. และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนได้เล็งเห็นความสำคัญและโอกาสในการที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงโคเนื้อให้ได้รับการพัฒนาด้วยการจัดอบรมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการผลิตจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด คณะเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยนครพนม และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อที่มาร่วมอบรมในครั้งนี้
ทั้งนี้ มีเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และผู้ประกอบการ ที่มีอาชีพเลี้ยงโคเนื้อเข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงและพัฒนาธุรกิจห่วงโซ่โคเนื้อจาก 9 จังหวัด
ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม สกลนคร มหาสารคาม ชัยภูมิ เชียงราย ขอนแก่น กาฬสินธุ์ หนองคาย และจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 158 คน ภายใต้มาตรการการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเคร่งครัด