เชียงราย - จนท.บุกทลายรังเว็บพนันออนไลน์กลางชุมชนชายแดนแม่สาย..นำหมายศาลลุยค้น 4 เป้าหมาย รวบผู้ต้องหา-ยึดของกลางเบ็ดเสร็จ พบทั้งตั้งจานดาวเทียม-ต่อสายไฟเบอร์ข้ามแดน รับแทงกันสนุกมือ เงินหมุนกว่า 20 ล้าน
วันนี้ (20 ก.ค.) นายสมหมาย เอี่ยมสอาด ข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาน รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายศาลแขวง จ.เชียงราย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ชุมชนหนาแน่นติดกับลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา เขต ต.แม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการเปิดเว็บไซต์เพื่อชักจูงให้คนเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์
ผลการตรวจค้นศาลแขวง จ.เชียงรายที่ ค 51/2565 ที่บ้านในเขตหมู่ 10 ต.เวียงพางคำ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นชายอายุ 29 ปี หญิงอายุ 26 ปี จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลแขวง จ.เชียงรายที่ ค 54/2565 เข้าค้นบ้านพื้นที่หมู่ 9 ต.แม่สาย สามารถจับกุมตัวหญิงสาวอายุ 21 ปี ได้ 1 คน เบื้องต้นพบว่าทั้ง 2 รายมีการใช้เว็บไซต์เพื่อเปิดให้คนเข้าไปเล่นการพนันและพบของกลางเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นได้ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ชักชวนโฆษณาให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันเอาทรัพย์กันโดยผิดกฎหมาย" พร้อมยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์จำนวน 7 เครื่อง โทรศัพท์จำนวน 5 เครื่อง ซิมการ์ด 274 อัน ไอแพด 1 เครื่อง
ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายธุรกิจพนันออนไลน์กลุ่มนี้ประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนการเหล่านี้มีการติดตั้งจานดาวเทียมเพื่อส่งสัญญานอินเทอร์เน็ตหรือต่อสายไฟเบอร์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเพื่อใช้สำหรับเผยแพร่เว็บไซต์ชักชวนให้คนเข้าเล่นการพนันออนไลน์ดังกล่าวอีกด้วย
จุดที่ 3 และ 4 เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลแขวง จ.เชียงรายที่ ค 52/2565 และที่ ค 53/2565 เข้าตรวจค้นในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ พบหญิงสาวอายุ 26 ปี และ 52 ปี แต่ไม่พบการกระทำความผิดจึงไม่มีการดำเนินคดี
นายสมหมายกล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะได้กำชับแต่ละพื้นที่ชายแดนทั่วไปที่อาจจะมีการกระทำในลักษณะเดียวกันทั้งชายแดนไทย-เมียนมา ชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-กัมพูชา ฯลฯ เพราะมักมีลักษณะเปิดให้เล่นการพนันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการพนันบอล มีคนไทยและต่างชาติร่วมมือกันเปิดเป็นสำนักงานตามตะเข็บชายแดน
“ที่ผ่านมากรณีชายแดนด้านประเทศกัมพูชาตรวจพบวงเงินหมุนเวียนมากนับ 100 ล้านบาท จึงต้องเร่งดำเนินการขยายผล ก่อนที่จะขยายตัวเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปฏิบัติการนับจากนี้ไม่จำเป็นต้องจับในรายใหญ่ๆ แต่สามารถสกัดจับรายเล็กๆ เพื่อป้องกันการขยายเป็นรายใหญ่แบบนี้ในอนาคต"
