xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโจ๊ก” สั่งเชือด ตร.เชียงราย 12 นายรวด เอี่ยวตบทรัพย์แก๊งจีนถ่ายหนังโป๊-ปล่อย 6 สาวไทยถูกหลอกค้ากามข้ามแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย - “บิ๊กโจ๊ก” สั่งเดินหน้าดำเนินคดีตำรวจเมืองเชียงราย รวม 12 นาย ไล่ตั้งแต่ “พ.ต.ท.” ยันชั้นประทวน ฐานเอี่ยวค้ามนุษย์ เรียกตบทรัพย์แก๊งจีนถ่ายคลิปโป๊-6 สาวไทยถูกหลอกไปขายตัวว้าแดง


วันนี้ (19 ก.ค. 65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.และหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ตร.แถลงข่าวความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ 2 ราย ที่ห้องประชุม ภ.จว.เชียงราย

รายแรกเป็นกรณีชุดสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กก.4 บก.สอท.4 สอท.และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ดำเนินคดีต่อขบวนการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันจีน "จู้โส่ว" ที่รีสอร์ตพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมผู้ถ่ายทำและสนับสนุนรวม 16 คน เป็นชาวจีน 9 คน ลาว 4 คน และไทย 3 คน ดำเนินคดีต่อตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย จำนวน 4 นาย เป็น พ.ต.ท.ทำหน้าที่รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ร.ต.อ.จำนวน 2 นาย และตำรวจชั้นประทวนยศ ส.ต.อ.อีก 1 นาย ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" หลังสืบสวนแล้วพบว่ามีการเรียกเก็บเงินจากขบวนการดังกล่าวเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า ชุดคลี่คลายคดีได้ขยายผลทราบเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา มีบุคคลต่างด้าวเป็นชาวจีน 2 ราย และชาวลาว 4 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเหยื่อที่ถูกช่วยเหลือในคดีนี้ ได้เดินทางจาก สปป.ลาว เข้าไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อจะเดินทางจะไปถ่ายทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว

แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้พบจุดตรวจตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จึงถูกจับกุม ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาได้นำเงินมอบให้ตำรวจระดับ ร.ต.อ.นายหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาชุดแรกจำนวน 70,000 บาท เพื่อขอให้ตำรวจชุดจับกุมปล่อยตัว ทำให้ทั้งหมดถูกปล่อยตัวและต่อมาถูกพบว่าได้ไปถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว

ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีจึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายจับดำเนินคดีต่อตำรวจสังกัด สภ.เมืองเชียงราย อีก 8 นายประกอบด้วยยศ ร.ต.อ.ที่เป็นรอง สวป.และเป็นหัวหน้าชุด ส่วนที่เหลือเป็นตำรวจชั้นประทวนยศ ด.ต.จำนวน 3 นาย ส.ต.อ.3 นาย และ ส.ต.ท.1 นาย

ในข้อหา "ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเวันการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจับกุมและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ปัจุบันคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบพยานและมีผู้ต้องหาเป็นชาวจีนหลบหนีไปได้ 1 คน จึงได้มีการออกเป็นหมายแดงเพื่อให้ตำรวจสากลติดตามจับกุมต่อไป

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า อีกรายเป็นคดีหญิงสาวชาวไทย 6 คน ได้รับการช่วยเหลือหลังจากถูกหลอกไปทำงานที่เมืองป๊อก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ในเขตปกครองของว้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่เมียนมาช่วยเหลือพาทั้ง 6 คนกลับคืนสู่ประเทศไทยผ่านทาง อ.แม่สาย ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งจากมีการคัดแยกพบว่าทั้ง 6 คนถือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ และเมื่อสอบสวนทำให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งมีหัวหน้าที่เป็นนายหน้าในการชักชวนคนไปยังประเทศเมียนมา 2 คน ชื่อ น.ส.เรืองจุฑา อายุ 26 ปี ชาว จ.สุรินทร์ และ น.ส.ชนิสรา อายุ 38 ปี ชาว จ.สงขลา ปัจจุบันจับกุมตัวได้แล้วในข้อหา "ร่วมกันโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้อง หรือการติดต่อเพื่อค้าประเวณีของตนเอง หรือผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่ากระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร"

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าช่วงที่หญิงสาวทั้ง 6 คนกำลังจะเดินทางไปยังประเทศเมียนมาได้ถูกตำรวจตรวจพบและมีการเรียกรับเงินจำนวน 60,000 บาท เมื่อมีการจ่ายเงินแล้วก็ได้พาทั้ง 6 คนข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมาได้สำเร็จด้วย

ดังนั้นจึงมีการดำเนินคดีตำรวจที่เกี่ยวข้อง 2 นายเป็น ร.ต.อ.ซึ่งเป็นรองสารวัตร 1 นาย และ ส.ต.อ.1 นาย ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่" และพลเรือนชายชื่อนายใส้ อายุ 48 ปี ชาว อ.แม่จัน จ.เชียงราย ถูกดำเนินคดีในข้อหา "เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย"

ผช.ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีก 1 คน และอีกส่วนหนึ่งอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพราะการลักลอบข้ามแดนในลักษณะนี้จะทำฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงจะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านและเมื่อสืบสวนรู้ตัวก็จะจัดทำเป็นหมายแดงเพื่อขอให้ตำรวจสากลติดตามจับกุมเช่นกัน

“พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ผมร่วมกับ ผบช.ภ.5 และ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่งหากถามว่าเห็นใจตำรวจหรือไม่ ตนก็ขอบอกว่าเห็นใจ แต่ถูกผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย รวมทั้งยืนยันว่าตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดีและเมื่อดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้วสถานการณ์เช่นนี้จะดีขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น