xs
xsm
sm
md
lg

ดรากอนเรย์อควาติค ฟาร์มปลากระเบนระดับโลก@หนองคาย พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนองคาย - ดรากอนเรย์ อควาติค ฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากระเบนระดับโลกที่หนองคายพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ผ่อนคลายมากขึ้น เผยขึ้นทะเบียนไซเตสประเภท 3 การันตีคุณภาพส่งออกได้ทั่วโลก เผยช่วงโควิดลูกค้าสั่งปลาเยอะเพราะอยู่บ้านมากขึ้น


ภายหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ประชาชนจำนวนไม่น้อยได้มองหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและเรียนรู้ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมมากขึ้น หนึ่งในนั้นอยู่ที่ จ.หนองคาย “ดรากอนเรย์อควาติค” ตั้งอยู่ที่ ต.หาดคำ อ.เมือง เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาสวยงาม เพื่อการท่องเที่ยวและการเรียนรู้ โดยเน้นไปที่การเพาะเลี้ยงปลากระเบนพันธุ์แบล็กไดมอนด์

นายวุฒิไกร ช่างเหล็ก เจ้าของดรากอนเรย์อควาติค กล่าวว่า ปลากระเบนสายพันธุ์แบล็กไดมอนด์ เป็นปลาน้ำจืดสวยงาม พื้นลำตัวสีดำ มีจุดสีขาวกระจายรอบตัว ซึ่งที่นี่ถือเป็นฟาร์มปลากระเบนใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และมีมาตรฐานขั้นตอนการเลี้ยงระดับสากล เป็นฟาร์มระดับโลกเลยก็ว่าได้ ฟาร์มดรากอนเรย์ อควาติค ดำเนินการมาเป็นปีที่ 9 แล้ว จากในช่วงแรกมีผลผลิตลูกปลากระเบนหลักสิบตัวเท่านั้น

แต่พอผ่านไปหลายปีเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง วางระบบน้ำ วางบ่อเพาะเลี้ยงใหม่ ประกอบกับพ่อแม่พันธุ์ปลาที่มีอยู่กว่า 600 ตัว เริ่มสมบูรณ์เต็มวัย ทำให้ได้ลูกปลากระเบนมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งราคาปลากระเบนจะแบ่งตามเกรดของปลา เช่น ปลาเกรดซี ราคาอยู่ที่ตัวละ 4,000-5,000 บาท เกรดบีตัวละ 5,000-10,000 บาท และเกรดเอ ราคาเริ่มที่ 10,000 บาทไปจนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว และมีปลากระเบนราคาหลักล้านให้ชมด้วย มีตลาดรับซื้อทั้งผู้นิยมในไทย รวมถึงตลาดฝั่งยุโรปด้วย


นายวุฒิไกรยอมรับว่ากว่า 2 ปีในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ฟาร์มได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะหากพนักงานเจ้าหน้าที่ของฟาร์มติดเชื้อก็จะขาดคนดูแลปลา อีกทั้งที่นี่ยังเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และการท่องเที่ยว มีร้านกาแฟในบรรยากาศธรรมชาติร่มรื่น หากกลายเป็นคลัสเตอร์กระจายโรคก็จะไม่ดี ดังนั้นช่วงที่โควิดระบาดอย่างหนัก ทางฟาร์มงดการโปรโมต ไม่เชิญชวนให้คนมาเที่ยว จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทำให้ขณะนี้ดรากอนเรย์ อควาติค พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ส่วนการส่งออกปลากระเบนยังโชคดีที่มีการส่งออกตามปกติ เพราะทางฟาร์มไม่ได้เน้นการขายแบบปริมาณ ลูกค้าที่อยู่ฝั่งยุโรป อเมริกา ค่อนข้างเปิดกว้างในการใส่หน้ากากอนามัย และการดูแลตัวเองจึงไม่ค่อยกังวล ส่วนในเอเชีย อย่าง เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ก็ยังมีกลุ่มนักเลี้ยงปลา ยิ่งได้อยู่บ้านในช่วงโควิดระบาดก็ยิ่งต้องเลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ ทำกิจกรรมในบ้าน การเพาะเลี้ยงและการจัดส่งขายถูกจัดสรรตามรอบปกติ




“ขณะนี้การเพาะพันธุ์ของเราทำได้ไม่ทันความต้องการของตลาด ลูกค้ายังคงสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ ราคาเกรดเอ ก็ยังเริ่มต้นที่หลักหมื่นไปจนถึงหลายแสนบาท ปลากระเบนแบล็กไดมอนด์ เป็นไซเตสประเภท 3 ฟาร์มเพาะพันธุ์เพื่อการส่งออกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับภาครัฐก็สามารถผลิตและส่งออกได้แล้ว ยิ่งประเทศบราซิลซึ่งเป็นต้นทางการผลิตไม่สามารถส่งออกได้ เพราะไม่มีฟาร์มและห้ามส่งออก” นายวุฒิไกรกล่าว และว่า

ดังนั้นเท่ากับว่า ณ ขณะนี้มีประเทศไทย ไต้หวัน จีน ที่ทำการเพาะเลี้ยงได้ปกติ แต่ต้นทุนแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ประเทศไทยเองมีศักยภาพทั้งเรื่อง อาหาร ทรัพยากร เป็นต้นทุนการผลิตต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ทำให้มีข้อได้เปรียบคู่แข่งจุดนี้ด้วย ซึ่งทางฟาร์มจะมีการพัฒนาจุดเด่นของปลากระเบนแบล็กไดมอนด์ ที่เน้นลายจุดขาว ให้ขาวขึ้น มีองค์ประกอบที่สวยงามขึ้น ภายใต้คุณลักษณะของแบล็กไดมอนด์ที่ควรจะเป็น จะไม่มีการผสมพันธุ์ให้เกิดความหลากหลาย เพราะไม่ใช่เป้าหมายของฟาร์มดรากอนเรย์ที่ต้องการอนุรักษนิยมคุณลักษณะเฉพาะของปลากระเบนแบล็กไดมอนด์มากกว่า


นอกจากดรากอนเรย์ อควาติค จะเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาสวยงามเพื่อการจำหน่าย ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับชาวเมืองหนองคายและเปิดให้คนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาชมด้วย โดยคิดค่าเข้าชม เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และมียังร้านกาแฟหอมกรุ่น บรรยากาศร่มรื่น กาแฟสดใหม่ เบเกอรีให้บริการด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น