บุรีรัมย์ - รวบทันควัน ลูกชายร้านไก่ย่างชื่อดังลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ควงปืนบีบีกันบุกจี้ร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ ได้เงินไป 1,500 บาท หลังก่อเหตุเดินกลับบ้านบอกแฟนสาวช็อก เงินที่ได้เอาไปซื้ออาหารแมว ขนม ฝากธนาคารและยังเหลือ 700 บาท เจ้าตัวเผยเป็นอารมณ์ชั่ววูบไม่มีปัญหาเรื่องเงินแต่ชอบเล่นเกมต่อสู้ ขณะพ่อร่ำไห้เสียใจ คาดเลียนแบบเกมทดสอบความกล้า
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น ตั้งอยู่ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพฯ ในเขตเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ได้เงินไปจำนวน 1,500 บาท จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ และพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบวงจรปิดสามารถบันทึกรูปพรรณคนร้ายและพฤติการณ์ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน โดยในภาพวงจรปิดจะเห็นว่ามีคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีครีมมีฮูดใช้คลุมศีรษะ สวมหน้ากากสีเหลืองปิดบังใบหน้า สวมถุงมือสีดำ กางเกงวอร์มสีฟ้า รองเท้าผ้าใบสีดำ ในมือถือปืน 1 กระบอก ใช้สำหรับจี้บังคับให้พนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ 2 คนเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอาเงิน โดยใช้เวลาเพียง 40 วินาที แล้วคนร้ายก็วิ่งออกจากร้านและหลบหนีไป
หลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ลำปลายมาศ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วริษฐ์ ดำพลงาม รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ นำกำลังชุดสืบออกลงพื้นที่แกะรอยตามภาพกล้องวงจรปิดว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหนเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟลำปลายมาศ อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุก็พบชายที่สวมเสื้อผ้าเหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อ เดินเข้าและออกร้านขายไก่ย่างชื่อดังช่วงเวลาไล่เลี่ยกับช่วงที่เกิดเหตุ
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจนปิดเข้าทำการตรวจสอบภายในร้านดังกล่าวว่ามีใครที่มีรูปพรรณตรงกันหรือไม่ พบนายเจษฎากรณ์ หรือเจ อายุ 21 ปี ลูกชายเจ้าของร้านกำลังยืนย่างไก่ช่วยพ่ออยู่ จึงได้นำภาพหลักฐานให้ดูนายเจ ยอมรับว่าเป็นบุคคลในภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ลำปลายมาศ
จากการสอบปากคำ นายเจยอมรับว่าได้ก่อเหตุใช้ปืนบีบีกันจี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อจริง ได้เงินไปจำนวน 1,500 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท รวม 15 ใบ ซึ่งเงินที่ได้ก็นำไปฝากธนาคารเข้าบัญชีตัวเอง 400 บาท ซื้ออาหารแมว 200 บาท ซื้อขนมและอาหาร 100 บาท เหลือ 700 บาท วางไว้บนตู้ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ก่อเหตุเสร็จก็เดินกลับบ้านไปบอกแฟนสาวแล้วก็ทำตัวเป็นปกติ
ส่วนเหตุจูงใจนายเจอ้างว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุเพราะไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน แต่ยอมรับว่าชอบเล่นเกมแนวยิงต่อสู้ ส่วนปืนอ้างว่าเก็บได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะแม้จะเป็นปืนบีบีกันแต่ข้างในบรรจุกระสุนจริง 1 นัด จะสืบสวนหาที่มาอีกครั้ง ส่วนเหตุจูงใจนั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดเพราะครอบครัวผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีฐานะไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมีพฤติกรรมเลียนแบบเกมแล้วก่อเหตุเพื่อทดสอบความกล้าของตัวเองหรือไม่
เหตุการณ์ครั้งนี้วงจรปิดถือเป็นหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เพราะสามารถบันทึกภาพได้ตั้งแต่ตอนที่นายเจเดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร จากนั้นเวลา 01.26 น. ลงมือก่อเหตุ โดยใช้เวลาเพียง 40 วินาที วิ่งออกจากร้าน จากนั้นเวลา 01.34 น. พบภาพเดินกลับเขาบ้าน เพื่อไปเอารถจักรยานยนต์ที่บ้านแล้วขับไปวัดสง่าท่าชลที เพื่อเอาปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า และถุงมือที่สวมใส่ในวันก่อเหตุไปทิ้งสระน้ำหลังวัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเจไปชี้จุดที่ทิ้งเสื้อผ้า และปืน โดยให้หน่วยกู้ภัยฯ ช่วยงมค้นหาก็พบทั้งเสื้อผ้า และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจริง จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพักอีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่สอบปากคำพ่อของนายเจ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายไก่ย่างชื่อดัง เดินทางมาหาลูกชาย ทันทีที่เห็นลูกชายโผเข้ากอดลูกชายแล้วร้องไห้ด้วยความเสียใจ และไม่ขอให้สัมภาษณ์หรือข้อมูลใดๆ
ต่อมา นางสาวจ๋า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมา แฟนมาพูดกับตนเองว่าเดี๋ยวจะลองไปปล้นร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงข้ามธนาคาร คิดว่าแฟนแค่พูดเล่นเท่านั้น แต่ตนพูดกับแฟนไปว่าอย่าไปหาทำแบบนั้นเดี๋ยวถูกจับติดคุกหรอก กระทั่งเมื่อประมาณตี 1 กว่าคืนที่ผ่านมา แฟนออกจากบ้านซึ่งไม่รู้ว่าออกไปไหน กระทั่งกลับเข้ามาบ้านอีกรอบมาบอกกับตนเองว่าเพิ่งไปปล้นร้านสะดวกซื้อหน้าธนาคารมา ได้เงินมา 1,500 บาท ตนตกใจมากแต่ไม่รู้จะทำยังไง ยอมรับว่าเสียใจมาก