บุรีรัมย์ - นักท่องเที่ยวทั้งไทย-ต่างชาติ พาครอบครัวเดินทางขึ้นไปชมความงดงามของปราสาทหินพนมรุ้ง แหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณที่สำคัญของ จ.บุรีรัมย์ ช่วงหยุดยาวเข้าพรรษาคึกคักวันละ 2-3 พันคน จากปกติวันละ 1 พันคน ส่งผลให้แม่ค้าขายของที่ระลึกมีรายได้วันละกว่า 3 พันบาทหลังซบเซาจากโควิดระบาดมานาน
วันนี้ (16 ก.ค.) ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้พาครอบครัวเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมความงดงาม และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนปราสาทหินพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณสำคัญของจังหวัด ในช่วงหยุดยาวเข้าพรรษาอย่างคึกคัก เฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน ส่งผลให้ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึกมีรายได้วันละกว่า 3 พันบาท หลังจากที่เงียบเหงาซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดมานาน
ขณะที่ทางอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ยังคงมีการป้องกันโควิดด้วยการตั้งจุดคัดกรองวัดไข้ บริการเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือที่ประตูทางเข้าชมปราสาท รวมถึงขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างก็ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการท่องเที่ยววิถีใหม่แบบนิวนอร์มัลเป็นอย่างดี
นายภาคภูมิ อยู่พูล หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บอกว่า ช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษาได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งคึกคักเฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน จากช่วงปกติมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยววันละประมาณ 1,000 คนเท่านั้น ซึ่งทางอุทยานฯ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกทั้งการจราจร ให้คำแนะนำตามจุดต่างๆ รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาทพนมรุ้งด้วย และถึงแม้ภาครัฐจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และเป็นสถานที่โล่งแต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ก็ยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัย
ด้าน นางปุณณภา สมัครคดี อายุ 61 ปี แม่ค้าขายของที่ระลึกบนเขาพนมรุ้ง บอกว่า ช่วงหยุดยาวเข้าพรรษาได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวคึกคักมากขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้แม่ค้ามีรายได้จากการขายของที่ระลึกวันละกว่า 3,000 บาท จากก่อนหน้านี้ซบเซาบางวันขายไม่ได้เลย บางวันได้แค่ 300-500 บาท อยากให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวคึกคักแบบนี้ไปเรื่อยๆ