xs
xsm
sm
md
lg

“ตชด.ภาค 3-เอไอเอส” ผนึกพลังเดินหน้าตั้งเครือข่าย-อินเทอร์เน็ต หนุน ร.ร.-ชุมชนชายขอบทั่วภาคเหนือเชื่อมโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - AIS ผนึก ตชด.ภาค 3 เร่งเดินหน้าขยายเครือข่ายสัญญาณ-อินเทอร์เน็ต สร้างโอกาสการศึกษาโรงเรียนชายขอบ เปิดช่องทางเชื่อมพื้นที่ดอยสูงทุรกันดารกับโลกภายนอก


ห้วงวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาดช่วงสองปีที่ผ่านมา นอกจากส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คนทุกพื้นที่แล้ว ยังส่งผลต่อโอกาสการเข้าถึงทางการศึกษา เด็กนักเรียนเข้าถึงการเรียนการสอนทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์อย่างยากลำบาก

โดยเฉพาะโรงเรียนชายขอบในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ตามดอยสูง ห่างไกล เส้นทางคมนาคมทุรกันดาร การติดต่อสื่อสารมีข้อจำกัด ยิ่งส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา ความพร้อมของบุคลากร อาคารสถานที่ ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลและในสถานการณ์โรคโควิด

ปัจจัยขั้นพื้นฐานที่สำคัญคือ สัญญาณอินเทอร์เน็ต จากเครือข่ายต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาและสร้างโอกาสเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษานั้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือเอไอเอส บริษัทมหาชนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทย ได้ประสานความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 เดินหน้าติดตั้งเครือข่าย โดยใช้ โซลาร์เซลล์ เพื่อสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพให้แก่เด็กนักเรียนและชุมชนอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการ ผู้บังคับการ บก.ตชด.ภาค 3 กล่าวว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ร.ร.ตชด.) และศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดน (ศกร.ตชด.) ในพื้นที่ภาคเหนือ มีจำนวนรวม 81 แห่ง จัดตั้งขึ้นเพื่อให้การศึกษาแก่เด็กและเยาวชน โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนของประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ทุรกันดาร หรือเป็นจุดบอดทางการศึกษา โดยมีปรัชญาของโรงเรียนคือ “สร้างภูมิปัญญา พัฒนาคุณภาพชีวิตสัมฤทธิผลความมั่นคง” ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าเด็กและชุมชนในถิ่นทุรกันดารส่วนใหญ่จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนก้าวหน้าไปมาก แต่ยังมีพื้นที่ชายแดนห่างไกล-การคมนาคมลำบาก ที่ยังด้อยโอกาสทางการศึกษา

“ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา คือสัญญาณเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทาง AIS เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ให้การสนับสนุนขยายเครือข่ายสัญญาณและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ร.ร.ตชด. และ ศกร.ตชด.ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้เยาวชนในพื้นที่ชายขอบได้รับโอกาสเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนในเขตเมืองหรือเขตชนบทได้เป็นอย่างดี


ด้านนายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้าส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือ เอไอเอส เปิดเผยว่า วิกฤตโควิด-19 นำมาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลก ซึ่งภายใต้เป้าหมายหลักของ AIS ตลอดระยะเวลาช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้เดินหน้าด้วยงบลงทุนกว่า 30,000-35,000 ล้านบาทในทุกปี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม กับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์อย่างเต็มความสามารถ

นอกเหนือจากการนำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้าไปสนับสนุนภาคสาธารณสุข ร่วมฝ่าวิกฤตโควิดในช่วงที่ผ่านมาแล้ว AIS ยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายสัญญาณเพื่อสนับสนุนต่อภาคการศึกษา โดยเฉพาะในบริเวณโรงเรียน ตชด.พื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่อง เช่นพื้นที่ อ.ขุนยวม, อ.สบเมย, อ.แม่สะเรียง, อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน พื้นที่ อ.ท่าสองยาง, อ.แม่ระมาด, อ.อุ้มผาง จังหวัดตาก พื้นที่ อ.เชียงคำ จังหวัดพะเยา พื้นที่ อ.อมก๋อย, อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่


ทั้งนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในพื้นที่ชายขอบ แม้ว่าภูมิประเทศในพื้นที่ภาคเหนือจะมีเส้นทางคมนาคมที่ยากลำบากและห่างไกล หลายแห่งที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง อย่างเช่น ศกร.ตชด.บ้านมูเซอหลังเมือง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยในพื้นที่ชายขอบทั่วภาคเหนือ เอไอเอสได้ดำเนินการติดตั้งเครือข่ายโดยใช้โซลาร์เซลล์แล้วกว่า 80 แห่ง เพื่อเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ สร้างโอกาสการเข้าถึงทั้งในภาคการศึกษา, สาธารณสุข ชุมชน และสังคมอย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น