ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แห่เทียนจำนำพรรษาโคราชเงียบเหงา หมดยุคต้นเทียนล้อการเมือง หลังเทศบาลนครนครราชสีมาห้ามทำเทียนล้อการเมืองส่งเข้าประกวด ทำให้วัดดังต้นตำรับและอีกหลายวัดถอนตัว งดส่งขบวนต้นเทียนพรรษาร่วมงาน ประกอบกับวิกฤตโควิดระบาด บวกเศรษฐกิจซบเซา ปชช.เดือดร้อนหาทุนทำลำบาก
วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำต้นเทียนพรรษาในคุ้มวัดต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาก่อนการระบาดของโควิด-19 วัดขนาดใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมาต่างระดมช่างเทียนจากพื้นที่ต่างๆ มาช่วยกันออกแบบและประดิษฐ์ต้นเทียนขนาดใหญ่ส่งเข้าประกวดในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาประจำปีของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะขบวนต้นเทียนพรรษาล้อการเมืองที่ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ และต้องการมาร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษากันเป็นจำนวนมากในทุกปี แต่ในปีนี้บรรยากาศซบเซาอย่างมาก หลายวัดเงียบเหงาไม่มีการหล่อต้นเทียนพรรษาแต่อย่างใด
โดยเฉพาะที่วัดโพธิ์เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นวัดต้นแบบหรือต้นตำรับของการประดิษฐ์ขบวนต้นเทียนพรรษาล้อการเมือง แต่ปีนี้มีเพียงโครงรถขบวนต้นเทียนจอดทิ้งไว้เท่านั้น
พระมหาสำเริง จิตตะปสาโท พระหัวหน้าทีมหล่อเทียนวัดโพธิ์ เปิดเผยว่า ปีนี้วัดโพธิ์ไม่ได้ส่งขบวนต้นเทียนพรรษาเข้าร่วมการประกวด หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดไม่ได้ทำต้นเทียนมานาน 2 ปีแล้ว มาในปีนี้เป็นปีที่ 3 ก็เช่นกันทางวัดไม่มีความพร้อมหลายด้านโดยเฉพาะปัจจัยทางด้านทุนที่จะต้องใช้ในการทำต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่มากถึง 4-5 แสนบาท แม้ว่าเราจะมีวัตถุดิบเป็นเทียนที่ทางวัดเก็บไว้หลังการประกวดแล้วก็ตาม ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่อยากไปรบกวนญาติโยม ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง หากเราไม่ได้มีมาตรการการคัดกรองช่างเทียนและประชาชน ที่จะมาช่วยกันหล่อเทียน อาจจะทำให้มีการระบาดของโรคได้
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.นครราชสีมา ได้สั่งห้ามทำเทียนล้อการเมือง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัดโพธิ์ คือ การประดิษฐ์เทียนล้อการเมืองที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดนครราชสีมาได้มีคนรู้จักประเพณีแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ใดในประเทศ และยังเป็นการดึงดูความสนใจของประชาชนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น หันมาสนใจประเพณีแห่เทียนพรรษามากขึ้น
ต้นเทียนที่ทางวัดโพธิ์ประดิษฐ์ขึ้นไม่ได้ให้แค่ความวิจิตรงดงามตระการตา ถวายเป็นพุทธบูชาเท่านั้น แต่ยังแฝงด้วยคติสอนใจและล้อกับสถานการณ์ความเป็นไปของสังคม การเมืองของไทยที่เราไม่สามารถแยกออกจากการดำเนินชีวิตของเราได้ และเป็นสีสันของต้นเทียนพรรษาวัดโพธิ์โดยมักจะใส่ไว้ด้านท้ายขบวนต้นเทียน ซึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น ขบวนต้นเทียน 13 หมูป่า อะคาเดมี ขบวนเทียนหลวงพ่อคูณ ขบวนเทียนนายกฯ ประยุทธ์ ขบวนเทียนหมีแพนด้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้หลายวัดได้ถอนตัวออกจากการส่งขบวนต้นเทียนเข้าร่วมประกวดในประเพณีแห่เทียนพรรษาของจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2565 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ก.ค.นี้ ไม่ว่าจะเป็นขบวนเทียนในพื้นที่ อ.โชคชัย ที่คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ติดต่อกันหลายสมัยอย่าง วัดใหม่สระประทุม อ.โชคชัย ก็ไม่ส่งเข้าประกวด โดยล่าสุดในปีนี้มีขบวนต้นเทียนพรรษาเพียง 7 ต้นเทียน พร้อมขบวนแห่เท่านั้นที่แจ้งส่งเข้าร่วมการประกวด แต่ปีนี้จะมีการแสดงของวงดุริยางค์ จากโรงเรียนชื่อดังอย่าง โรงเรียนสุรนารีวิทยาและราชสีมาวิทยาลัย ซึ่งเป็นทีมที่จะส่งเข้าประชันกับวงดุริยางค์ของโรงเรียนในสังกัด กทม.ตามคำท้าของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ที่เข้าร่วมขบวนแห่เทียนด้วย
