ลพบุรี - ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่จังหวัดลพบุรี
เย็นวันนี้ (11 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ นำพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ถวายราชสักการะต่อเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ วงเวียนเทพสตรี จังหวัดลพบุรี
ทั้งนี้ เพื่อเทิดทูน และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ นานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชกรณียกิจด้านการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ยังความเจริญแก่สยามประเทศ ทั้งด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การค้าและสถาปัตยกรรม โดยเมืองลพบุรี เมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีความทันสมัย สวยงาม เป็นเมืองรับรองคณะทูตานุทูตจากต่างประเทศหลายคณะ และทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกศาสนาต่างๆ โดยเท่าเทียม
ในการนี้ พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี วางพวงมาลาของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้นำผู้แทนกระทรวงต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ร่วมกระทำพิธีถวายพวงมาลาราชสักการะและกล่าวถวายราชสดุดีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยพร้อมเพรียงกัน
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถือเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชสมภพเมื่อวันจันทร์เดือนยี่ ปีวอก พุทธศักราช 2175 หลังจากเสวยราชสมบัติที่กรุงศรีอยุธยาได้ประมาณ 10 ปี ทรงมีพระราชดำริให้สถาปนาเมืองเก่า คือ เมืองลวธานี หรือลพบุรีในปัจจุบัน เป็นราชธานีที่สอง และเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่ลพบุรี เป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 8 เดือน สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2231 สิริพระชนมายุ 56 พรรษา โดยคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2553 กำหนดให้วันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ