ศูนย์ข่าวศรีราชา –- เหิมหนัก! เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบบางละมุง จ.ชลบุรี บุกงัดบ้านขนทรัพย์สินลูกหนี้จนเกลี้ยงทำเสียหายกว่า 300,000 บาท เหตุไม่มีเงินจ่ายดอกรวม 5,000 บาทต่อวัน ขณะลูกหนี้แจงไม่คิดโกงแต่หมุนเงินไม่ทันยันเอาเรื่องถึงที่สุด ชี้กระทำการเกินกว่าเหตุ
วันนี้ (8 ก.ค.) น.ส.ฉันทพิชญา คำอุ่น อายุ 37 ปี อาชีพขายของชำ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวว่า ถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบดอกรายวัน บุกเข้ามางัดบ้านพักเลขที่ 50/149 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และได้โจรกรรมทรัพย์สินไปจนหมดบ้าน โดยอ้างว่าเพื่อทดแทนเงินดอกที่ตนเองติดค้าง
และยังบอกอีกว่าหลังเกิดเหตุได้ให้บุตรชายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ก่อนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อเพื่อให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอีกทาง
ทั้งนี้ น.ส.ฉันทพิชญา บอกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตนเองต้องประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนักจนต้องตัดสินใจกู้หนี้นอกระบบที่ต้องส่งดอกเบี้ยรายวันรวมกว่า 10 เจ้า เป็นเงินรวมกว่า 200,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการค้าขายและดูแลครอบครัว
โดยจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันในอัตราเงินต้น 10,000 บาทต่อดอกเบี้ย 200 บาท และเมื่อจากยอดหนี้ทั้งหมดแล้วจะต้องจ่ายดอกเบี้ยมากกว่า 5,000 บาทต่อวัน
“กระทั่งช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เริ่มหมุนเงินไม่ทัน ในวันที่ 4 ก.ค. จึงเดินทางไปหาแม่ที่ต่างจังหวัดพร้อมครอบครัวเพื่อขอยืมเงินมาใช้หนี้และได้ล็อกประตูบ้านไว้ เมื่อเดินทางกลับในวันที่ 6 ก.ค.พบว่าบ้านถูกงัดและทรัพย์สินในบ้านถูกโจรกรรมไปจนหมด”
น.ส.ฉันทพิชญา ยังบอกอีกว่า ทรัพย์สินที่ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบนำออกไป ประกอบด้วย แอร์ 2 ตัว ขนาด 12,000 บีทียู จักรเย็บผ้าอุตสาหกรรม 4 ตัว เตียงนอน 2 ชุด ตู้เสื้อผ้า 3 ตู้ ตู้แช่ขนาด 3 บาน จำนวน 1 หลัง เครื่องซักผ้า 2 เครื่อง ตู้เย็น 1 เครื่อง เตาแก๊ส+ถังแก๊ส 1 ชุด เครื่องกรองน้ำ 1 ตัว และสินค้าในตู้แช่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท
“ที่ผ่านมาไม่เคยคิดโกงเงินใครแม้จ่ายไม่ตรงกำหนด แต่ก็พยายามหาเงินมาจ่ายคืน ซึ่งหลังจากนี้ยินดีชดใช้หนี้คืนเจ้าหนี้ทุกราย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด เพราะการกระทำดังกล่าวของเจ้าหนี้ถือว่าเกินกว่าเหตุ และไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง” น.ส.ฉันทพิชญา กล่าว
