ก.ยุติธรรมดึงสถาบันการเงินจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ให้ชาวนครพนม

นครพนม - ก.ยุติธรรม สนองนโยบายรัฐ จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือน ให้ชาวนครพนม นำสถาบันการเงินหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 17 หน่วยงาน เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน พร้อมให้สิทธิประโยชน์จำนวนมาก


วันนี้ (8 ก.ค.) ที่ศูนย์ประชุมศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม น.ส.ณัฐธ์ถัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 43 และยุติธรรมพบประชาชนจังหวัดนครพนม ที่กระทรวงยุติธรรมได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนชาวจังหวัดนครพนม มีนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี นางอัญชลี ภูริวิทย์วัฒนา รองผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ มีการเลิกจ้าง ลดเงินเดือน ขาดรายได้ และปิดกิจการ เกิดผิดนัดชำระหนี้นำไปสู่การฟ้องร้อง ทั้งเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน มุ่งเน้นแก้ปัญหาหนี้ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้เช่าซื้อรถ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล กระทรวงยุติธรรมตระหนักถึงความสำคัญการแก้หนี้ตามนโยบายดังกล่าว โดยนำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาใช้

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลเน้นแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ ซึ่งมหกรรมวันนี้มีการบูรณาการร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ จัดกระบวนการไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันกับชาวจังหวัดนครพนม ที่มีปัญหาถึง 17 หน่วย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ทั้งการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดการฟ้องดำเนินคดี ปรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน งดการยึดทรัพย์ งดการขายทอดตลาด และลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี เป็นต้น




พื้นที่จังหวัดนครพนมมีเป้าหมายไกล่เกลี่ยลูกหนี้รวมทั้งสิ้น 4,883 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 632,112,171.18 บาท มีทั้งประชาชนทั่วไปและผู้ต้องขังในเรือนจำ ทุกคนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับกองทุนยุติธรรมที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกด้านคดีความ มีการจัดหาทนายและให้คำปรึกษาฟรีแก่ประชาชน มีเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา รวมถึงเรื่องปราบปรามยาเสพติด มีประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ เน้นยึดทรัพย์ ตัดวงจรเครือข่ายคนค้า รางวัลนำจับสำหรับการแจ้งเบาะแส และมาตรการติดตามคุมประพฤติด้วยกำไล EM

ในโอกาสนี้ ยังมอบเงินเยียวยาสำหรับผู้เสียหายในคดีอาญาอีก 7 ราย เป็นเงิน 495,000 บาท และมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนให้ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอีกจำนวน 10 ศูนย์


ด้าน ด.ต.ชัยรัตน์ โพธิ์เหลือง หนึ่งในผู้ร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ค้ำประกันให้น้องที่ทำงานด้วยกัน ต้องแบกรับภาระหนี้เป็นเงิน 2,170,691.03 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 1,049,729.34 บาท และดอกเบี้ยค้างชำระอีก 1,120,964.69 บาท ซึ่งภายหลังเข้ามาไกล่เกลี่ย ทางธนาคารออมสินใจดีช่วยเหลือด้วยการลดดอกเบี้ยให้ 100% มีภาระแค่เพียงเงินต้นเท่านั้น รู้สึกดีใจมาก หลังจากต้องเครียดและกังวลมานาน

ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้มีเรื่องดีๆ แบบนี้ อยากฝากประชาชนทุกคนที่เป็นหนี้สถาบันการเงิน ขอให้เข้ามาพูดคุย มาเจรจา อย่าหนี เพราะเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และหาทางออกร่วมกัน