เพชรบุรี - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ รวบวัยรุ่นภายในพูลวิลล่า 18 ราย ลักลอบจัดปาร์ตี้ยา ตรวจยึดอาวุธปืน และยาเสพติดเพียบ ภายในโครงการหมู่บ้านชัชพีย์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
วันนี้ (8 ก.ค.) พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.อภิรัก เพิ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พิรชัช บุญพลาย สว.ป้องกันและปราบปราม สภ.ชะอำ นำกำลังเข้าจับกุม นายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม. 8 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีน จำนวน 1 อัน เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 15 นัด ซองปืนสีดำ 1 ซอง
พร้อมด้วยนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207/1 ม.2 ต.หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาอีสีชมพู จำนวน 3 เม็ด 2.ยาอีสีม่วง ลักษณะเหลี่ยมแบน ทั้ง 2 ด้านมีรูปผีเสื้อ จำนวน 16 เม็ด 3.เคตามีนลักษณะเป็นเกล็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส 4. เคตามีนลักษณะเป็นเกล็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 10 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 7.42 กรัม และกลุ่มวัยรุ่น ชายหญิง อายุ 16-23 ปี จำนวน 18 ราย ได้ภายในบ้านพักพูลวิลล่า ชื่อ Like 2 เลขที่ 59/72 ซอย 10 ภายในโครงการหมู่บ้านชัชพีย์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนเอาปืนจะมายิงกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวภายในบ้านพักพูลวิลล่า จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิง จำนวน 18 ราย กำลังจะมั่วสุมอยู่ในบ้านพักพูลวิลล่า จึงเข้าตรวจสอบ พบของกลางยาเสพติดหลายรายการซุกซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานภายในห้องนอนของตัวบ้านพัก ซึ่งนายเอ ยอมรับว่าเป็นของตน
จากนั้นทำการตรวจค้นนายบี พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน1กระบอก จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ชะอำ โดยทั้งหมดสารภาพว่าได้ร่วมกันมาเช่าบ้านพักพูลวิลล่าที่เกิดเหตุเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดกัน ก่อนมาถูกจับได้ดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 18 ราย ไปตรวจปัสสาวะที่ รพ.ชะอำ พบปัสสาวะเป็นสีม่วง ก่อนแจ้งข้อหา 1.นายบี มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.นายเอ ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 19 เม็ด และยาเค น้ำหนัก 9.48 กรัมโดยผิดกฎหมาย และผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 18 ราย ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป