บุรีรัมย์ - “หม่อมปลื้ม” เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฐานจัดรายการหมิ่น “อนุทิน” ปลดล็อกกัญชามอมเมาประชาชน ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เบื้องต้นปฏิเสธไม่ได้หมิ่น อ้างเป็นการพูดข้อเท็จจริงเพราะมองว่ากัญชาเป็นยาเสพติด พร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (8 ก.ค.) จากกรณีที่ นายยุทธชัย พงศ์พณิช สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับมอบอำนาจจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีต่อ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม และพวก ที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินรายการหนึ่งผ่านเพจเฟซบุ๊ก หัวข้อ "ไม่สนเยาวชนติดกัญชาบ้างเลยหรือ?" เผยแพร่เป็นสาธารณะประชาชนทั่วไป
โดยเนื้อหาเป็นการนำเสนอทำนองว่า พรรคภูมิใจไทยได้ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เป็นการมอมเมาประชาชน เป็นการผิดศีลธรรม ทำเรื่องที่ผิดเป็นเรื่องที่ถูก เป็นการย้อนแย้งกัน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่สนับสนุนกัญชา เหมือนมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไปสนับสนุนการสร้างกาสิโน ซึ่งการนำเสนอดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายป้ายสีพรรค มีลักษณะข้อความอันเป็นเท็จ มีถ้อยคำหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้ผู้ได้ยินได้ฟังดูหมิ่นเกลียดซังนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย
ล่าสุดวันนี้ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม ได้เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียก โดยหม่อมปลื้มได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า วันนี้เป็นการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบอำนาจให้คนมาฟ้องตนเอง ในข้อหาหมิ่นประมาทกรณีการจัดรายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นัดให้มาพบอีกครั้งในวันที่ 10 ส.ค. 65 เบื้องต้นให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ก็มาพบตามที่ตำรวจแจ้งให้มา เสร็จแล้วก็จะเดินทางกลับไปจัดรายการตามปกติ
การจัดรายการของตนเองเพียงต้องการ สื่อว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดที่เป็นภัยต่อสังคม ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่สามารถปลูกกันได้ทุกบ้าน หรือไม่ควรจะซื้อขายกันได้อย่างเสรี ดังนั้นเมื่อมีการทำนโยบายของรัฐให้นำไปสู่การที่กัญชาสามารถใช้กันได้กึ่งเสรี ในที่สุดแล้วมันจะทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งนี้มันปกติ แล้วเป็นสิ่งที่มีคุณมากกว่าโทษ ซึ่งมันไม่ใช่ ซึ่งข้อเท็จจริงกัญชามันมีโทษมากกว่าคุณ แล้วก็เป็นข้อเท็จจริงด้วยว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลกถือว่ากัญชานั้นเป็นยาเสพติด เพราะฉะนั้นภัยต่อสังคมเป็นสิ่งที่จะต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิด เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เพราะคนที่แจ้งหมิ่นเป็นรัฐมนตรี ซึ่งหม่อมปลื้มไม่ได้ตอบว่ากังวลหรือไม่กังวล เพียงบอกว่าตนก็มาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้มา และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หากนัดให้มาพบ
ทั้งนี้ หม่อมปลื้มยังได้มีการจัดรายการผ่านสื่อโซเชียลนอกสถานที่ บรรยายถึงบรรยากาศที่เดินทางมา "เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็ต้อนรับอย่างเรียบร้อยสุภาพดี ผมก็เซ็นเอกสารในการรับทราบข้อกล่าวหา และก็ถามขั้นตอนในการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็แจ้งว่าอีกประมาณ 1 เดือนก็จะนัดมาพบพนักงานอัยการ หลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการที่ทางอัยการจะสรุปคดีว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง"
หม่อมปลื้มกล่าวอีกว่า ตอนจัดรายการตนไม่ได้มีสคริปต์ ก็จะเล่าตามคำพูด ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารกลางวันก็จะไม่มีการแวะเที่ยวที่บุรีรัมย์ จะรีบกลับไปจัดรายการสดช่วงเย็น