กำแพงเพชร - ชาวสวนกล้วยไข่เตรียมต้อนรับนายกฯ ลุงตู่ และคณะเต็มที่ วอนให้ช่วยส่งเสริมเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก หลังเกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นหนีความเสี่ยงจากลมพายุพัดเสียหาย จนทั้งจังหวัดเหลือแค่ 2,900 ไร่ จากอดีตมีเกือบ 3 หมื่นไร่
วันนี้ (6 ก.ค. ) นางดวงฤทัย เงินยวง ประธานแปลงใหญ่กล้วยไข่ ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร และนายปรารภ คันธวัน เกษตรอำเภอคลองขลุงและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้ช่วยกันเตรียมพื้นที่ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลุงตู่ พร้อมคณะ ที่จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) และมีกำหนดเดินทางมาเยี่ยมผลการดำเนินงานร้านค้าวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรกล้วยไข่ตำบลท่าพุทรา
โดยได้นำผลผลิตที่ผลิตจากกล้วยไข่ ประกอบไปด้วยแป้งกล้วยไข่สำหรับชงดื่มเพื่อสุขภาพ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อเคลือบกระเพาะอาหารและมีแคลเซียม, น้ำพริกกล้วยไข่, ข้าวเกรียบกล้วยไข่, ทองม้วนกล้วยไข่ และเมี่ยงกล้วยไข่ ที่ผลิตจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในหมู่บ้าน ที่วางจำหน่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าในจังหวัดกำแพงเพชร รวมทั้งขายผ่านช่องทางผ่านออนไลน์ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน มาจัดวางโชว์เต็มที่
ประธานแปลงใหญ่กล้วยไข่ได้กล่าวถึงปัญหาของการเพาะปลูกกล้วยไข่ที่นับวันจะมีพื้นที่ลดน้อยลงไป เนื่องจากมีพืชเศรษฐกิจอื่นทดแทน เพราะการปลูกกล้วยไข่จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างดี โดยเฉพาะลมจะทำให้ต้นล้มได้รับความเสียหาย ขณะที่การเยียวยาจากภาครัฐไม่เพียงพอ ทำให้ขณะนี้ทั้งจังหวัดเหลือพื้นที่เพาะปลูกเพียง 2,900 กว่าไร่เท่านั้น
นายปรารภ คันธวัน เกษตรอำเภอคลองขลุง เปิดเผยว่า ในอดีตกล้วยไข่จังหวัดกำแพงเพชรมีพื้นที่ปลูกกว่าเกือบ 3 หมื่นไร่ ปัจจุบันเหลือ 2,900 ไร่ กระจายไปยังอำเภอต่างๆ โดยเฉพาะคลองขลุงมีพื้นที่ปลูก 300 ไร่ ที่เหลือก็คือ อำเภอเมือง อำเภอไทรงาม อำเภอคลองลาน และอำเภอโกสัมพีนคร
ส่วนสาเหตุของการเพาะปลูกพื้นที่ขายลดลงเนื่องจากว่าเกษตรกรประสบปัญหาหลายอย่าง ที่สำคัญคือเรื่องของลมพายุ ซึ่งเกษตรกรไม่อยากเจอกับความเสี่ยงสูง จึงหันไปปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจต้องช่วยเกษตรกรเพื่อหาทางเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูกกล้วยไข่ ที่เป็นพืชเศรษฐกิจและสัญลักษณ์ของจังหวัดกำแพงเพชรไม่ให้ลดน้อยไปกว่านี้ และหาทางประกันความเสียหายให้แก่เกษตรกรที่ประสบความเสียหายจากพายุพัดล้มด้วย