แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ เมืองสามหมอกสั่ง นอภ.ปายเร่งสอบเรื่องฉาว..หลังชาวบ้านร้องพระวัดดังยักยอกเงินตู้บริจาค-เสพเมถุน ภาพโผล่ชัด สะพัดล่าสุดดอดสึกเงียบที่เชียงใหม่แล้ว
กรณีกลุ่มชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อ พระครูอนุสารปุญญาคม เจ้าคณะอำเภอปาย เจ้าอาวาสวัดแม่นาเติงใน และพระครูอนุสรณ์ จารุวรรณ เจ้าคณะตำบลเวียงหนือ เจ้าอาวาสวัดแม่ปิง ให้ดำเนินการทางวินัยสงฆ์ และอาญาต่อพระรูปหนึ่งในวัดพระธาตุแม่เย็น ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน หลังพบคลิปยักยอกเงินจากตู้รับบริจาค มีการลวนลามหญิงสาวรวมไปถึงเสพเมถุน ทั้งการนัดพบเจอกันในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ในเวลาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงมีการถูกเนื้อต้องตัว จนเกิดพยานหลักฐานการประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสมที่อาจเป็นความผิดต่อพระธรรมวินัยของสงฆ์
ล่าสุด นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปราชการที่กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้น และได้สั่งการให้นายอำเภอปายเข้าไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดได้รายงานมาว่ามีปัญหาเรื่องที่วัดยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดโดยสมบูรณ์ แต่อยู่ในสถานะของสำนักสงฆ์หรือวัดร้าง แต่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ ทางสำนักงานพระพุทธศานาจังหวัดเองต้องการช่วยทำให้เรื่องนี้มันถูกต้อง
ส่วนเรื่องของกรรมการวัดหรือพระรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง จริงๆ อยากให้ประชาชนอยู่กันอย่างสงบสุข ทางจังหวัดเองก็พร้อมรับฟังปัญหาจากทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรม หลังจากที่ทางอำเภอเข้าไปตรวจสอบแล้วผลเป็นอย่างไรก็จะต้องแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบอยู่แล้ว แต่จะต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งจากฝ่ายต่างๆ ก่อน ตอนนี้ให้ทางอำเภอจัดการก่อน จากนั้นตนก็จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
“แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่นับถือพุทธศาสนาเป็นหลักอยู่แล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่คนจับตามองว่าเป็นเรื่องขัดแย้งกันระหว่างผู้นำหมู่บ้านกับทางวัดนั้น ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายไว้ก่อน หลังได้รับรายงานจากทางอำเภอแล้วก็จะทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทางจังหวัดก็จะต้องแจ้งรายละเอียดแก่ประชาชนถึงปัญหาและเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ กระแสข่าวล่าสุดมีรายงานว่า พระรูปดังกล่าวได้หายออกไปจากวัดพระธาตุแม่เย็นและไปขอลาสิกขาแบบเงียบๆ แล้วที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกระแสข่าวถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นจะมาจากเรื่องของการไม่ลงรอยกันของทางวัดกับผู้นำหมู่บ้านหรือคณะกรรมการวัดบางคนนั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครออกมายืนยันถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด