เชียงใหม่ - ม.แม่โจ้เปิดวันแรกส่งมอบต้นกล้ากัญชา 30 บาทให้ประชาชน เฉพาะที่สั่งจองซื้อและได้รับการนัดหมายตามลำดับเท่านั้น เฉลี่ยวันละประมาณ 10,000 ต้น พบยอดจองเบื้องต้นกว่า 1.5 แสนต้น จากศักยภาพการผลิต 1 ล้านต้น ย้ำจุดยืนชัดเจนนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และดูแลสุขภาพ โดยไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเอาไปใช้เชิงสันทนาการ และเรียกร้องออกกฎหมายควบคุมเข้มงวดโดยเร็ว
วันนี้ (1 ก.ค. 65) ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนที่สั่งจองซื้อต้นกล้ากัญชาสายพันธุ์แม่โจ้ 03 และชำระเงินแล้วตามระบบ ต่างทยอยกันเดินทางเข้ารับต้นกล้ากัญชาตามลำดับที่ได้รับการนัดหมาย ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดให้เข้ารับต้นกล้ากัญชา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่นดี หลังจากที่มีการปิดไปชั่วคราวเพื่อจัดระบบการส่งมอบต้นกล้าให้แก่ผู้ซื้อ ที่ในแต่ละวันจะทำการส่งมอบให้เฉพาะผู้ซื้อที่สั่งจองไว้และชำระเงินแล้ว พร้อมกับได้รับการนัดหมายให้มารับเท่านั้น เฉลี่ยวันละประมาณ 10,000 ต้น ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. โดยจะมีจุดลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดก่อนที่จะมีการส่งมอบต้นกล้าให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งจะไม่มีการขายให้ผู้ซื้อที่วอล์กอินเข้ามาและผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการเปิดเสรีกัญชา กัญชง ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยการปลูก เสพ สูบ สามารถทำได้โดยถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อกำหนดและการนำไปใช้บางอย่างจำเป็นต้องได้รับการควบคุม ซึ่งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยรองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ประกาศเปิดขายต้นกล้าพันธุ์กัญชาสายพันธุ์แม่โจ้ 03 ในราคาต้นละ 30 บาท เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและดูแลสุขภาพ ปรากฏว่าต้นกล้ากัญชาสายพันธุ์แม่โจ้ 03 เป็นที่ต้องการอย่างมากของประชาชน ซึ่งล่าสุดมียอดการสั่งจองต้นกล้ารวมแล้วประมาณ 150,000 ต้น และมีการชำระเงินแล้วประมาณ 50,000 ต้น
สำหรับการสั่งจองซื้อต้นกล้ากัญชาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้นั้น ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐระบุว่า ผู้ที่สนใจจะต้องจองซื้อผ่านทางแบบฟอร์มหน้าเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้” เท่านั้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5387-3730, 08-4488-8305 และ Line ID:@kancha โดยผู้ที่จองซื้อและชำระเงินแล้วด้วยการโอนเข้าบัญชีธนาคารของมหาวิทยาลัยเท่านั้น จะได้รับการนัดหมายให้เข้ารับต้นกล้าได้ตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ พบว่ามีผู้สนใจจองซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีศักยภาพในการผลิตต้นกล้าได้ถึง 1 ล้านต้นภายในสิ้นปีนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า การเปิดขายต้นกล้ากัญชาของมหาวิทยาลัยแม่โจ้นั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและดูแลสุขภาพ พร้อมย้ำว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้มีจุดยืนแน่วแน่ในการสนับสนุนการนำกัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และรักษาสุขภาพเท่านั้น โดยรู้สึกไม่สบายใจและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการนำไปใช้ในเชิงสันทนาการ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งออกกฎหมายและมาตรการควบคุมอย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา เพราะแม้กัญชาอาจจะไม่ได้เป็นยาเสพติด แต่ต้องยอมรับว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การใช้ยาเสพติดอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นภัยอันตรายต่อสังคมส่วนรวม