กำแพงเพชร - เกิดอุบัติเหตุหมู่..รถตู้โดยสารออกจากหมอชิตมุ่งหน้าปลายทางท่าสองยาง ตาก ถึงขาณุวรลักษบุรี เจอเทรลเลอร์ 18 ล้อชะลอเตรียมจอดหลับข้างทางกะทันหัน หักหลบไม่ทันชนตูม ดับ 2 เจ็บเกือบยกคันนับสิบ
วันนี้ (1 ก.ค. 65) ร.ต.อ.คมศิษฏ์ สุปิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนกับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บนถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) หลักกิโลเมตรที่ 394-395 ม.1 (บ้านสระตาพรม) ต.ดอนเเตง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำเเพงเพชร เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.เศษที่ผ่านมา จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดสลกบาตร
ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารป้ายทะเบียน 30-0322 ตาก พลิกคว่ำตกลงไปข้างทางสภาพพังยับ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่ภายในหลายราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้พยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดออกมาอย่างทุลักทุเลนานกว่า 20 นาที
โดยพบว่ามีผู้ที่โดยสารมากับรถตู้คันดังกล่าวรวม 12 คน เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ นายสุรัตน์ ชัยตรีภพ อายุ 17 ปี และ น.ส.นภัสสร วนาพร้อมสุข อายุ 16 ปี อยู่บ้าน ม.9 ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ บาดเจ็บ 8 ราย และไม่บาดเจ็บใดๆ เลย 2 ราย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ช่วยกันงัดนำร่างของผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในซากรถตู้ออกมา พร้อมนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี
ใกล้กันพบรถเทรลเลอร์ของบริษัท มนต์เมย ทรานสปอร์ต ยี่ห้ออีซูซุ (สีขาว) ป้ายทะเบียน 71-3157 และ 71-3158 ปทุมธานี จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพท้ายพ่วงมุมขวาพังเสียหายจากการถูกรถตู้ชน
นายเกล่อทอ วนาเจริญสุข อายุ 53 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 14 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก คนขับรถตู้คันเกิดเหตุที่บาดเจ็บเล็กน้อย ให้ข้อมูลต่อตำรวจว่า ขับรถตู้รับผู้โดยสารมาจากหมอชิต กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปส่งปลายทางที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขณะขับตามท้ายรถพ่วงได้ชะลอรถอย่างกะทันหัน ตนจึงหักหลบไม่ทันทำให้รถตู้ฝั่งซ้ายชนเข้ากับท้ายรถพ่วงอย่างจังจนเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่นายอนุศิษฐ์ วนกลาง อายุ 38 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 14 ต.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา คนขับรถพ่วงเทรลเลอร์ ได้ให้ข้อมูลว่า ได้ขับรถพ่วงจาก จ.สระบุรี กำลังจะไปส่งของที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ กำลังจะชะลอรถจอดรถนอนพักข้างทาง ซึ่งก็ไม่คิดว่ารถตู้ที่ตามมาจะชนท้าย หลังเกิดเหตุตนได้จอดรถและรอให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ซึ่งในจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิดและกล้องหน้ารถใดๆ จึงได้เชิญตัวคนขับรถทั้ง 2 รายไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนจะดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
