สระแก้ว - หน่วยงานชายแดนไทย-กัมพูชา หารือเตรียมพร้อมเปิดตลาดโรงเกลือเต็มรูปแบบ ยันขณะนี้ ศบค.ไทยยังไม่อนุญาตให้กรรมกรกัมพูชาเข็นรถข้ามแดนเข้ามาค้าขายได้ตามกระแสข่าวลือหวั่นควบคุมอยาก นอกจากนั้น ยังเล็งเปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง
เมื่อเร็วๆ นี้ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมตัวแทนฝ่ายกัมพูชา นำโดย นายเนตร เสลี กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย นายอุม เรียแตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย หัวหน้าหน่วยทหาร ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง และผู้แทนจากจังหวัดพระตะบอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดตลาดโรงเกลือเต็มรูปแบบ
โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมด่านศุลกากรอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก โดยมีข้อหารือประกอบด้วย ความชัดเจนในการขนส่งสินค้าภายในตลาดโรงเกลือด้วยรถเข็น เนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กระแสข่าวในกลุ่มชาวกัมพูชาที่ค้าขายในตลาดโรงเกลือ ว่า รัฐบาลไทยจะอนุญาตให้กรรมกรชาวกัมพูชานำรถเข็นเข้ามาค้าขาย หรือขนส่งสินค้าในตลาดโรงเกลือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้
แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดบันเตียเมียนเจย ยังยืนยันตรงกันว่า รัฐบาลไทยยังไม่อนุญาตให้รถเข็นจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือได้เหมือนช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563
เนื่องจากการควบคุมกรรมกรชาวกัมพูชาที่เดินทางข้ามแดนมากับรถเข็นทำได้ยาก และต้องรอการอนุมัติจาก ศบค.ชุดใหญ่ก่อน โดยขณะนี้ได้มีการอนุโลมให้ผู้ข้ามแดนสามารถใช้เอกสารเป็นบอร์เดอร์พาสและพาสปอร์ตเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีการหารือกันถึงความชัดเจนได้เรื่องการเดินทางข้ามแดนโดยใช้รถยนต์ หรือการข้ามแดนโดยบุคคลหลังไทยได้เปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และการเตรียมเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่บ้านหนองเอี่ยน อ.อรัญประเทศ และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง และผู้ผ่านแดนจะต้องใช้บัตรอนุญาตผ่านแดนชั่วคราว หรือบัตรอิมการ์ด (immigration card)
"หลังการหารือในวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่อง จึงต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งในส่วนของ จ.สระแก้ว และบันเตียเมียนเจย รวมถึง จ.พระตะบอง ซึ่งในส่วนของ จ.สระแก้ว นั้นได้มอบหมายให้ นายณัฐชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าคณะ ส่วนกัมพูชา นายงอ เม็งจรวน รองผู้ว่าราชการ จ.บันเตียเมียนเจย จะเป็นหัวหน้าคณะทำงาน” ผู้ว่าราชการ จ.สระแก้ว กล่าว
และคณะทำงานของทั้ง 2 ประเทศจะทำข้อตกลงร่วมกัน ก่อนจะหารือร่วมกันอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ ที่ฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมที่ จ.บันเตียเมียนเจย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่อีกหนึ่งประเด็นหารือที่สำคัญคือ การขนส่งสินค้าโดยพาหนะล้อเลื่อน หรือรถเข็นด้วยการปล่อยให้ชาวกัมพูชาจำนวน 5,000 คน สามารถเข็นรถเข้ามาเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ ซึ่งในประเด็นนี้ยังคงต้องรอความชัดเจนจาก ศบค.ชุดใหญ่ และยังจะต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนของ 2 ประเทศ ร่วมพิจารณาร่างข้อกำหนด ซึ่งจะต้องมีการจัดประชุมร่วมกันอีกครั้งในปลายเดือนหน้า ซึ่งฝ่ายกัมพูชาเสนอขอเป็นเจ้าภาพ
