ปราจีนบุรี – “ โกทร” เปิดบ้านพักเมืองปราจีนฯ แจงถูกชี้มูลความผิดรุกที่ดินป่าสงวนเขาใหญ่เป็นเกมการเมืองเหตุเพราะใกล้เลือกตั้ง มั่นใจไม่กระทำความผิดพร้อมสู้คดี ขอชาวปราจีนฯ มั่นใจไม่ทำให้เสื่อมเสีย
จากกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และพวกรวม 10 คน ในคดีการมีส่วนร่วมบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี กว่า 150 ไร่เมื่อปี 2545 และนายสุนทร ได้ถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯ ออกหมายจับ เพื่อให้นำตัวยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ก่อนถูกส่งตัวให้อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 2 ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 และศาลฯได้อนุญาตประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 600,000 บาท ก่อนกำหนดนัดสืบสวนข้อเท็จจริงใน 5 ส.ค.2565 นั้น
วันนี้ ( 23 มิ.ย.) นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และยังเป็น ส.ส. ปราจีนบุรียาวนานถึง 8 สมัยได้เปิดบ้านพักบริเวณตลาดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูก ปปช.ชี้มูลความผิดจนเป็นข่าวโด่งดัง ว่าตนเองยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจและไม่เคยใช้อิทธิพลในการออกเอกสารสิทธิ หรือโยนความผิดให้ลูกน้องรับแทนตามที่เป็นข่าว
ส่วนสาเหตุที่ต้องเปิดบ้านพักให้ผู้สื่อข่าวเข้าพูดคุยก็เพื่อต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร และยังเปิดใจถึงที่มาของการได้ที่ดินจนเกิดข้อพิพาทจนนำไปสู่การตรวจสอบและ ปปช. ได้ชี้มูลความผิด
โดยบอกว่าที่ดินทั้งหมดบริเวณตีนเขาใหญ่ซึ่งอยู่ใน ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี ไม่ใช่ที่ดินที่เกิดจากการบุกรุกแต่เป็นที่ดินที่มีเอกสารทำกินครอบครองอยู่ก่อนแล้ว และที่ผ่านมาได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ
“ ส่วนพื้นที่ที่ถูกระบุว่าเป็นรุกนั้นเกิดจากการนำรถแบคโฮเข้าปรับพื้นที่ที่อยู่นอกแนวรั้วที่ดินที่มีเอกสารสิทธิจนดูเหมือนเป็นการบุกรุกทั้งที่ไม่ใช่การเจตนาการบุกรุกที่ดินที่ถูกระบุ ซึ่งเราเองก็พร้อมที่จะชี้แจงและต่อสู้ตามเอกสารที่มี”
นายสุนทร ยังยืนยันว่าตนเองไม่ใช่คนขี้โกงและที่ผ่านมามีที่ดินอยู่ในครอบครองจำนวนมาก จึงไม่จำเป็นต้องบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในอุทยานฯ เขาใหญ่ ส่วนกรณีที่ถูก ปปช.ชี้มูลความผิดอาจจะมาจากปัญหาทางการเมืองเนื่องจาก ช่วงนี้ใกล้ที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ และตนเองสังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่นหลายเรื่องจนอาจเป็นที่ไม่พอใจของพรรคการเมืองบางพรรค
“ สังเกตได้ว่าขณะนี้พรรคฯ เองก็ถูกโจมตีทั้งเรื่องกัญชาที่อาจยังมีช่องโหว่อยู่บ้างซึ่งทางหัวหน้าพรรคฯ ก็พยายามแก้ไขและพยายามทำให้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องปัญหาส่วนตัวที่เจออยู่นั้นก็พร้อมที่จะสู้ตามเอกสารและพยานที่มี ซึ่งในขณะนี้ไม่รู้สึกกังวลใดๆ ”
ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า ตนเองอาจถูกคำสั่งให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.นั้น นายสุนทร เผยว่าหากเป็นเช่นนั้นก็คงต้องถามกลับว่าเมื่อมีคำสั่งดังกล่าวหรือปลดตนเองออกจากหน้าที่แล้ว หากวันหนึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการกระทำผิดแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
นายสุนทร ยังได้ฝากถึงชาวปราจีนบุรีที่เชื่อมั่นและลงคะแนนเลือกให้ตนเองเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.ว่า ตนเองจะไม่ทำให้ จ.ปราจีนบุรี เกิดความเสียหายและเห็นได้จากการพัฒนาจังหวัดสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเป็นอย่างมากในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา
“ ขออย่าได้เอาเรื่องการเมืองเข้ามาใส่กันและขอฝากถึงสื่อฯ สำนักหนึ่งที่บอกว่าผมโบ้ยความผิดให้ลูกน้องว่าผมนักเลงพอและหากทำผิดก็พร้อมยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งการพาดหัวข่าวในลักษณะนั้นทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ” นายสุนทร กล่าว
