บุรีรัมย์- ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เริ่มปรับตัวหันมาใช้เตาถ่านสลับกับก๊าซหุงต้ม หวังลดต้นทุนหลังวัตถุดิบหลายอย่างปรับขึ้นราคาและรัฐประกาศปรับราคาก๊าซหุงต้มกิโลกรัมละ 1 บาทต่อเนื่อง 3 เดือน มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. นี้ โอดของแพงแบกต้นทุนสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ 20
วันนี้ ( 23 มิ.ย. ) หลังจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มอีก 1 บาท/กิโลกรัม ต่อเนื่อง 3 เดือน คือ ก.ค. - ก.ย. 2565 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป อาทิ ถังก๊าซหุงต้นขนาด 15 กิโลกรัมที่นิยมใช้ในครัวเรือนทั่วไป เพิ่มขึ้นอีกถังละ 15 บาท จากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่าร้านก๋วยเตี๋ยวครูนา ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 ช่วงบ้านโคกตะแบก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เริ่มปรับตัวด้วยการหันมาใช้เตาถ่านในการทำก๋วยเตี๋ยวขายควบคู่กับการใช้ก๊าซหุงต้ม เพื่อหวังลดประหยัดค่าใช้จ่ายหรือต้นทุน
เนื่องจากการใช้ถ่านจะมีต้นทุนต่ำกว่าการใช้ก๊าซหุงต้มหลายเท่า แต่ถ่านจะใช้ได้กับการตุ๋นตีนไก่ น่องไก่ หมูตุ๋น และเนื้อตุ๋นเท่านั้น ส่วนน้ำซุป หรือการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ต้องใช้ก๊าซหุงต้มเหมือนเดิมเพราะต้องใช้ความร้อนค่อนข้างสูง แต่เตาถ่านจะไม่สามารถเร่งความร้อนได้ แต่เชื่อว่าการใช้เตาถ่านสลับกับก๊าซหุงต้มจะสามารถลดต้นทุนได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะหากจะมีการปรับราคาก๊าซหุงต้มอีก 3 เดือนต่อเนื่อง
นายณรงค์ คะรัมย์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวครูนา บอกว่า หลังจากราคาวัตถุดิบและก๊าซหุงต้มปรับขึ้นราคา ส่งผลให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้นจากที่เคยลงทุนวันละ 5,000 บาท เพิ่มเป็นวันละ 7,000 บาท แต่ก๋วยเตี๋ยวยังคงขายราคาเดิมคือชามละ 40 บาท พิเศษ 50 บาท ยังไม่กล้าปรับขึ้นเพราะเกรงว่าหากปรับขึ้นแล้วลูกค้าอาจจะลดลง เพราะทุกวันนี้ประชาชนก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าแพงเหมือนกัน
จึงจำเป็นต้องปรับตัวด้วยการหันมาใช้เตาถ่านในการต้มวัตถุดิบทำก๋วยเตี๋ยวขาย เช่น ใช้เตาถ่านในการตุ๋นตีนไก่ น่องไก่ หมูตุ๋น และเนื้อตุ๋น ถึงแม้ตอนนี้ถ่านก็มีการปรับขึ้นราคาจากเดิมถุงละ 40 เป็นถุงละ 45 บาท แต่เชื่อว่าการใช้เตาถ่านยังประหยัดกว่าใช้ก๊าซหุงต้มหลายเท่า
อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงรัฐบาลได้เร่งหามาตรการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนผู้บริโภคด้วย