หนองคาย - ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคายเผยกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน หลังแก๊งหลอกเคลียริ่งเช็คซื้อทอง ข้ามโขงไปหลอกร้านทองใน สปป.ลาว เป็นแก๊งเดิมที่ถูกจับแล้วแต่ได้ประกันตัว คาดเดินทางไปก่อเหตุแล้วเดินทางกลับไทยในวันเดียวกัน เตรียมยื่นศาลพิจารณาถอนประกัน ทำผิดเงื่อนไขประกันตัว
จากกรณีที่มีเจ้าของร้านทองใน สปป.ลาว ทั้งในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงสะหวันนะเขต ถูกคนร้ายหลอกเอาทองไปด้วยวิธีการเคลียริ่งเช็ค มียอดเงินในบัญชี แต่เงินไม่เข้าจริง เจ้าของร้านชาวลาวหลงกล ให้ทองรูปพรรณไปทั้ง 2 ร้าน เป็นทองคำหนักรวมกว่า 40 บาท ซึ่งหนึ่งในผู้เสียหายชาวลาวได้เดินทางมาแจ้งตำรวจ สภ.เมืองหนองคายไว้แล้ว
ความคืบหน้าในวันนี้ (22 มิ.ย. 65) พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าของร้านทองที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ว่าถูกคนร้ายหลอกซื้อทองด้วยวิธีการเคลียริ่งเช็ค ผ่านธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย
ทางร้านหลงเชื่อว่ามีเงินเข้าบัญชีแล้ว จึงได้มอบทองคำให้คนร้ายไป เป็นทองรูปพรรณ 26.50 บาท มูลค่า 851,000 บาท และมารู้ในภายหลังว่ามีตัวเลขในบัญชีธนาคาร แต่ไม่มีจำนวนเงินจริง ซึ่งกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นที่ร้านทองในจังหวัดหนองคายเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 65
หลังจากนั้นตำรวจได้ตามจับกุมแก๊งหลอกเคลียริ่งเช็ค ได้ผู้ต้องหา 5 คน ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งต่อมามีทั้งผู้ได้รับการประกันตัวและผู้อยู่ระหว่างการคุมขัง ส่วนผู้ที่ไปก่อเหตุและปรากฏในกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียหายชาวลาวนำมาให้ตำรวจดูเป็นหลักฐานนั้น เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่เคยถูกจับและได้รับการประกันตัว คาดว่าในวันเกิดเหตุคือวันที่ 8 มิ.ย. 65 ผู้ก่อเหตุอาจจะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลแล้วฉวยโอกาสเดินทางไปยัง สปป.ลาว
ซึ่งได้ตรวจสอบกับตรวจคนเข้าเมืองแล้วพบว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศด้วยบอร์เดอร์พาส ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย จากนั้นไปก่อเหตุที่ร้านทองในเวียงจันทน์ แล้วเดินทางกลับภายในวันนั้น ขณะนี้ตำรวจได้รับแจ้งความไว้แล้วและอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน มีการขอตรวจสอบจากธนาคารซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้นคาดว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิด 2 คน
แม้ว่าคดีนี้เหตุจะเกิดที่ต่างประเทศ แต่เมื่อมีส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.หนองคาย ตำรวจก็มีอำนาจสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการ และเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการประกันตัว ก็จะส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาถอนประกันตัวต่อไป
พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด แจ้งถึงร้านทองหรือร้านค้าต่างๆ ในกรณีการเคลียริ่งเช็ค ว่าขอให้ตรวจสอบยอดเงินที่ใช้ได้จริง ไม่ใช่ตัวเลขเงินในสเตทเมนต์ที่มีการโอนเข้าบัญชี หากไม่มั่นใจให้ติดต่อสอบถามพนักงานธนาคาร ก่อนจะซื้อขายสินค้าในทุกครั้งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ