xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยเชียงใหม่ครวญยังเงียบทั้งแผงแม้ "สลากดิจิทัล" หมดเกลี้ยง-แถมยี่ปั๊วได้ทีขึ้นราคาซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยที่เชียงใหม่เผยบรรยากาศซื้อขายยังเงียบเหงา แม้สลากดิจิทัลกว่า 5 ล้านใบถูกขายหมดเกลี้ยงแล้วภายในเวลาแค่ 3 วัน ขณะที่ยี่ปั๊วได้จังหวะขึ้นราคาแพงเหมือนเดิม ส่วนคนขายยังหวั่นเหลือค้างเต็มแผงเหมือนงวดที่ผ่านมา ต้องลุ้นหนักเป็นรายวันจนกว่าจะถึงวันออกรางวัล


รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (20 มิ.ย.) ช่วงเช้าที่บริเวณที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักจากการที่บรรดาผู้จอง-ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ได้รับการจัดสรรสลากให้รายละ 5 เล่ม หรือ 500 ใบ ต่างพากันเดินทางเข้ารับสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ก.ค. 65 ที่ถูกจัดส่งมาถึงเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งเมื่อรับเสร็จแล้วพบว่าผู้จอง-ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลส่วนหนึ่งได้ขายส่งต่อทันทีให้กลุ่มผู้ที่มารอรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อนำไปขายต่อ โดยตกลงซื้อขายกันในราคาใบละ 85-90 บาท และนำไปตั้งแผงขายต่อในราคาใบละ 100 บาท หรือรวมชุด

ขณะที่จากการสังเกตการณ์ตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่สลากดิจิทัล จำนวนกว่า 5 ล้านใบ ที่ต้องซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ถูกซื้อขายจนหมดแล้วภายในเวลาเพียง 3 วันหลังวางขายนั้น พบว่าบรรยากาศภาพรวมยังไม่คึกคักแต่อย่างใด 

สอบถามเจ้าของแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายหนึ่งบอกว่า ช่วงนี้การซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลยังเงียบเหงาอยู่ แม้ว่าสลากดิจิทัลจะถูกซื้อไปหมดแล้ว คาดว่าต้องรอจนใกล้จะถึงวันออกรางวัลน่าจะมีลูกค้าออกมาซื้อมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ต้องอาศัยลูกค้ากลุ่มที่ต้องการถือสลากไว้กับตัวเอง และคนสูงอายุที่ใช้แอปพลิเคชันไม่เป็น

นอกจากนี้พบด้วยว่าภายหลังจากที่สลากดิจิทัลถูกซื้อขายหมดแล้ว ทางกลุ่มยี่ปั๊ว ซึ่งรอเวลาอยู่แล้ว ต่างพากันปล่อยขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้ค้ารายย่อยที่ต้องรับไปขายต่อในราคาที่แพงเหมือนเดิม ดังนั้นเรื่องที่มีการบอกกันว่าการเปิดขายสลากดิจิทัลจะช่วยแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด จึงยังไม่เป็นความจริงในเวลานี้ เพราะผู้ค้ารายย่อยที่รับสลากจากยี่ปั๊วมาขายยังคงมีต้นทุนสูงกว่าราคาขายที่กำหนดไม่เกินใบละ 80 บาท และทำให้จำเป็นต้องขายให้ประชาชนในราคาที่สูงกว่าที่รับมาเหมือนเดิม

สำหรับผลกระทบจากสลากดิจิทัลในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้ยอดขายหดหายและเหลือสลากที่ไม่ได้ขายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ค้าที่ตั้งแผงขาย ที่ต้องยอมลดราคาขายต่ำกว่าใบละ 80 บาทเพื่อให้เหลือสลากน้อยที่สุด แต่ในส่วนของผู้ค้าที่เร่ขายไปตามที่ต่างๆ นั้น เท่าที่พูดคุยสอบถามกันว่าส่วนใหญ่จะขายหมด เนื่องจากอาศัยวิธีการและช่องทางขายด้วยการตรงเข้าไปหาลูกค้า อีกทั้งยังสามารถขายได้ราคาด้วย เพราะหากลูกค้าพบเห็นเลขที่ถูกใจก็พร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อแม้ว่าจะราคาแพง






กำลังโหลดความคิดเห็น