เชียงราย – วอนคนใจบุญช่วยสาวเชียงรายวัย 31 ปี ป่วยโรคประหลาด เนื้อมือ-เท้าเน่าเปื่อยถึงกระดูก หมอต้องผ่าตัดมือซ้ายออกแล้ว 1 ข้าง ล่าสุดแผลโผล่ต้นขาทั้ง 2 ข้างอีก ขณะที่พ่อเลี้ยงเดี่ยวหยุดรับจ้างทำนาดูแลพ่อแม่ทั้งป่วยและชราภาพ-พาลูกไปหาหมอตามนัดถึง 3 โรงพยาบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่จัน เทศบาล ต.สันทราย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนองค์กรเอกชน-เพื่อนบ้าน ต่างหาทางช่วยเหลือ น.ส.จุฑามาศ ทรายทา หรือ "นิว" อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่บ้านจอมจันทร์ หมู่ 2 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด ผิวหนัง-เนื้อบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง และเท้าข้างซ้าย มีแผลเน่าเปื่อยจนถึงกระดูก สร้างความเจ็บป่วดให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก และล่าสุดเริ่มมีแผลที่ต้นขาทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่มือข้างซ้ายมีอาการเน่าเปื่อยหนักขึ้นจนแพทย์ต้องผ่าตัดมือออกไปในที่สุด ทำให้ทุกวันนี้เหลือเพียงมือข้างขวาข้างเดียวแต่ก็มีสภาพเน่าจนเป็นสีดำแล้ว
ขณะที่ภายในบ้านมีเพียงนายเกษม ทรายทา อายุ 54 ปี บิดาของ น.ส.จุฑามาศ เพียงคนเดียวที่คอยเลี้ยงดูลูก รวมทั้งยังต้องดูแลปู่-ย่าของ น.ส.จุฑามาศ คือ นายอ้าย ทรายทา ซึ่งมีอายุ 85 ปี และนางจันหล้า อายุ 76 ปี ระสบอุบัติเหตุล้มลงเมื่อ 3 ปีก่อนปัจจุบันต้องใช้ไม้เท้าพยุงจนแทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีกด้วย เพราะนายเกษมได้เลิกรากับแม่ของ น.ส.จุฑามาศ ตั้งแต่ลูกอายุได้เพียง 4 ขวบ
โดยคนที่ทราบข่าวต่างพยายามให้การช่วยเหลือ-บริจาคเงิน เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลและเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งนายเกษมต้องพาลูกสาวไปพบแพทย์ต่อเนื่องเดือนละหลายครั้ง ทำให้ไม่สามารถออกไปทำนาหรือรับจ้างอื่นๆ ได้เลย นอกจากนี้ยังต้องทำอาหาร ซักผ้า และทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อดูแลพ่อ-แม่ และลูกสาว ซึ่งต้องออกแรงยกและพยุงลูกขึ้นลงรถเพื่อเดินทางไปกลับโรงพยาบาลตามหมอนัด เมื่อถึงบ้านก็ต้องฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้เช้า 1 เข็ม เย็น 1 เข็ม จัดยาให้กินทุกมื้อๆ ละประมาณ 15 เม็ด ไม่รวมยาแก้ปวดที่ต้องกินทุกครั้งที่มีอาการ เนื่องจาก น.ส.จุฑามาศ เดินและลุกนั่งไม่ได้ต้องนอนราบอยู่บนเตียงเท่านั้น
น.ส.จุฑามาศ กล่าวเดิมตนใช้ชีวิตตามปกติ หลังเรียนจบบัญชีระดับ ปวช.จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย และปริญญาตรีในสาขาวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ก็ออกมาทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย
กระทั่งช่วงต้นเดือน ม.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มทำงานได้ไม่นานก็มีอาการชาที่มือมากขึ้นๆ จนหยิบจับสิ่งของไม่ได้เมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์เชียงราย หมอแจ้งว่าเป็นเส้นเลือดอุดตันที่ปลายนิ้ว และจ่ายยารักษาตามอาการ แต่อาการก็ไม่หายและหนักขึ้นจนต้องไปหาหมอทุกสัปดาห์
ซึ่งช่วงนั้นก็ยังพยายามไปทำงาน กระทั่งเดินทางไปงานสัมมนาที่ จ.เชียงใหม่ ก็มีอาการปวดมือจนถึงกระดูกต้องเข้าโรงพยาบาลอีก เมื่อกลับถึงเชียงราย ก็ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่นานถึง 40 คืน แต่แผลที่มือก็ยังลุกลามไม่หยุด
“ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร จึงย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ท้ายที่สุดแพทย์บอกว่าเป็นโรคคล้ายโรคพุ่มพวง คือมีอาการแพ้ภูมิตัวเองในหลอดเลือด และมีหลอดเลือดเล็กมากด้วยจึงต้องรักษาตามอาการ กระทั่งวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ถึงขั้นต้องผ่าตัดมือข้างซ้ายออกไป ปัจจุบันก็ต้องไปพบแพทย์เสมอและเจ็บปวดที่มือกับเท้ามาก”
ด้านนายเกษม กล่าวว่าเดิมตนมีอาชีพรับจ้างทำนาหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัวเพราะไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง ต่อมาลูกสาวโตขึ้นก็หวังจะได้พึ่งพาบ้าง แต่กลับมาป่วย ทำให้ตนไปรับจ้างทำนาหรือทำงานอื่นๆ ไม่ได้เลย เงินทองที่มีอยู่ก็ร่อยหรอหมดไปเรื่อยๆ จึงได้แต่หวังว่าหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือ
“ก็หวังว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้า อาการของลูกสาวจะดีขึ้นตนก็จะได้ไม่ห่วงใดๆ มาก แต่หากลูกยังป่วยอยู่อีกตนก็จะดูแลไปตลอดชีวิต พาไปโรงพยาบาลตามหมอนัดเพราะอาการของลูกต้องไปรักษาถึง 3 โรงพยาบาลคือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ เกี่ยวกับเรื่องบาดแผล ซึ่งมีนัดวันที่ 17 มิ.ย.นี้ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องกระดูกมีนัดในวันที่ 20 มิ.ย. และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เกี่ยวกับเรื่องการให้ยา ซึ่งหมอนัดช่วงต้นเดือนกรกฎาคม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบันฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน และเทศบาล ต.สันทราย ได้ให้การช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้รับเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท ขณะที่ทางญาติๆ และนายเกษมเห็นพ้องกันว่าให้มีการเผยแพร่หมายเลขบัญชีธนาคารออมสินชื่อ น.ส.จุฑามาศ เลขที่ 02-0228120711 เพื่อให้ผู้ใจบุญได้บริจาคช่วยเหลือให้ครอบครัวได้บรรเทาจากความทุกข์ยาก สอบถามนายเกษมได้ที่โทรศัพท์ 082-70285965 น.ส.จุฑามาศ โทรศัพท์ 095-2975899.
