บุรีรัมย์ - สองยายพี่น้องป่วยไทรอยด์และโรคเกาต์ ชาวจ.บุรีรัมย์ วอนหน่วยงานรัฐและผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ หลังซื้อที่ดินมรดกต่อจากน้องชายคนเล็ก ด้วยไว้ใจเพราะเป็นสายเลือดเดียวกันจึงไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายแค่จ่ายเงินตามที่ตกลงกันแล้วสร้างบ้าน แต่น้องชายกลับแอบนำที่ดินไปขายต่อและโอนให้คนอื่น รู้อีกทีตอนคนที่ซื้อต่อมาไล่ให้ออกจากบ้าน ขู่ถ้าไม่ออกจะเอา ตร.มาขับไล่
วันนี้ ( 16 มิ.ย.) นางสุวรรณ เอกา อายุ 66 ปี ปัจจุบันป่วยเป็นโรคเกาต์ และนางสุมาลี เอกา อายุ 56 ปี น้องสาว ป่วยเป็นไทรอยด์เป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ลำคอ ไม่สามารถทำงานได้ ชาว ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและผู้รู้กฎหมาย หลังจากเมื่อหลายปีก่อน ทั้งสองได้ซื้อที่ดินมรดกต่อจากน้องชายคนเล็ก ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ นส.3ก. รวมเนื้อที่ประมาณ 2 งานเนื่องจากน้องชายจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกับครอบครัว
โดยในเนื้อที่แปลงเดียวกันนางสุมาลี ซึ่งเป็นพี่สาวคนที่ 8 ของครอบครัว ตกลงซื้อในจำนวน 1 แสนเพราะที่ดินอยู่บริเวณด้านหลัง หลังจากตกลงซื้อก็จ่ายเงินสดให้กับน้องชาย เป็นก้อนครบจำนวน 1 แสนบาทตามที่ตกลง ส่วนนางสุวรรณ พี่สาวคนที่ 4 ตกลงซื้อขายในราคา 3 แสนบาท เพราะเนื้อที่อยู่ด้านหน้าติดถนนในหมู่บ้าน โดยได้จ่ายให้กับน้องชายไปแล้ว 3 ครั้ง ๆแรก 50,000 บาท ครั้งที่สอง 50,000 บาท และครั้งที่สาม 100,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 100,000 บาท ก็จะทยอยจ่ายให้จนครบตามที่ตกลงกัน
แต่ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเห็นว่าเป็นพี่น้องแท้ๆ สายเลือดเดียวกัน จึงไม่ได้ทำสัญญาซื้อกันไว้ เพราะคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร หลังจากจ่ายเงินให้น้องชายไปแล้ว นางสุมาลี และนางสุวรรณ พี่สาวทั้งสองคนก็ต่างคนต่างสร้างบ้าน และเข้าไปอยู่อาศัยตามปกติ มีการขอบ้านเลขที่ และมีชื่อเป็นเจ้าบ้านคนละหลัง จากนั้นทั้งสองพร้อมครอบครัวก็อยู่อาศัยมาตลอดไม่ได้มีปัญหาอะไร
กระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีคนมาบอกว่าที่ดินแปลงดังกล่าว เขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้วขอให้ย้ายออกจากบ้านและที่ดินดังกล่าว ทั้งสองพี่น้อง ก็ตกใจมากพยายามติดต่อหาน้องชายคนเล็กก็ติดต่อไม่ได้ จึงเชื่อว่าน้องชายน่าจะเอาที่ดินแปลงดังกล่าวไปขายต่อให้กับคนอื่น ทั้งได้โอนชื่อเป็นของคนที่ซื้อต่อแล้ว โดยที่ไม่ได้บอกพี่สาวทั้งสองคนที่ตกลงซื้อขายและจ่ายเงินกันแล้ว
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้าของที่ดินเขาให้กำนันมาบอกว่าให้ย้ายของออกจากบ้าน เพราะเขามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวอย่างถูกต้อง แต่หากไม่ย้ายก็จะเอาตำรวจมาขับไล่ออก ก็ไม่คิดว่าน้องชายแท้ๆ ที่คลานตามกันมาจะทำกันได้ลงคอ
จากกรณีดังกล่าวจึงอยากร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้รู้กฎหมายเข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะหากถูกขับไล่ออกจากบ้านก็ไม่รู้จะพากันไปอยู่ที่ไหน เพราะเงินที่เก็บสะสมจากตอนที่ยังมีเรี่ยวแรงทำงานได้ ก็เอามาซื้อที่ดินของน้องชายและสร้างบ้านจนหมดแล้ว ทุกวันนี้ก็ป่วยไม่สามารถทำงานได้ ส่วนลูกก็รับจ้างกินไปวันๆ ถ้าเขาให้ตำรวจมาขับไล่ออกจริงๆคงไม่มีที่ซุกหัวนอน ส่วนน้องชายก็หายไปเลยไม่เคยมาถามไถ่หรือรับผิดชอบอะไรเลย แต่ถ้าเจ้าของที่เขายินยอมให้ซื้อที่ดินคืน แต่เรียกในราคาสูงก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาซื้อคืน
