xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจไซเบอร์ขอนแก่น รวบแก๊งแฮกไลน์ข้าราชการระดับสูง หลอกยืมเงินเหยื่อเสียหายร่วม 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น-กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จับแก๊งค์คอลเซนเตอร์ หลังแฮกไลน์และเฟซบุ๊ก ข้าราชการชั้นสูงจังหวัดขอนแก่น ขอยืมเงินคนรู้จัก พบเครือข่ายหลอกเงินผู้เสียหายรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท


วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลนี 3 (ขอนแก่น) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3บก.สอท.3 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหากรณีคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก นายสุธี ปรารถนายิ่งยศ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ (ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว

หลังจากนั้นคนร้ายได้สวมรอยเป็นนายสุธี และส่งข้อความทางหมายเลขโทรศัพท์ 081 9086342 มาหาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง แจ้งว่าไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหาย ส่งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับไลน์ มาให้เพื่อใช้ติดต่อด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายว่าเป็นนายสุธีตัวจริง ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก จึงส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปให้คนร้าย จากนั้นมีข้อความมายังโทรศัพท์ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นรหัส OTP คนร้ายได้สอบถามรหัสดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ส่งรหัส OPT ดังกล่าวไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นนายสุธี (ส่งรหัส OTP ให้คนร้าย) ทางข้อความ

สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย 1. น.ส.สโรชา เอี่ยมลออ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 502/7 ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 2. น.ส.สุนี ภู่อ่าง อายุ 18 ปี ที่อยู่ 97/4 หมู่ 10 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 3 .นายสมชาย แสนธิเลิศ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 301/90 หมู่ที่ 5 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 4.นายหลงติ๊บ บุญศรี อายุ 17 ปี ที่อยู่ 90/1 หมู่ที่ 9 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. กล่าวว่ากรณีมีคนร้ายได้แฮกเฟซบุ๊กนายสุธี ปรารถนายิ่งยศ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ (ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว) หลังจากนั้นคนร้ายได้สวมรอยเป็นนายสุธี และส่งข้อความทางหมายเลขโทรศัพท์ มาหาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง แจ้งว่าไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหาย ส่งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับไลน์ มาให้เพื่อใช้ติดต่อด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายว่าเป็นนายสุธีตัวจริง ซึ่งเป็นพื่อนในเฟซบุ๊คกับผู้เสียหาย จึงได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปให้คนร้าย

จากนั้นได้มีข้อความมายังโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นรหัส OTP คนร้ายได้สอบถามรหัสดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ส่งรหัส OPT ดังกล่าวไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นนายสุธีฯ (ส่งรหัส OTP ให้คนร้าย) ทางข้อความ หลังจากนั้นปรากฏว่าไลน์ผู้เสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากคนร้ายได้เข้าไปควบคุมไลน์ผู้เสียหาย ที่มีรหัสผ่านเฉพาะ สวมรอยเป็นผู้เสียหาย และแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย




โดยเมื่อวันที่ 28พ.ค. 65 เวลา 14.00 น. คนร้ายได้เข้าใช้งานไลน์และเข้าถึงข้อมูลในไลน์ของผู้เสียหาย ชื่อไลน์ว่า “ท่านXXXXXXXXXXXX” แล้วเข้าควบคุมแสดงตนเป็น ผู้เสียหาย แล้วทักไลน์หลอกยืมเงินจากบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นเพื่อนในไลน์ของผู้เสียหาย โดยไม่เจาะจงว่าเป็นผู้ใด ที่มีอยู่ทั้งประเทศ เพื่อขอให้เพื่อนในไลน์ ชำระค่าบริการค่าโทรศัพท์ให้

มีเพื่อนในไลน์ผู้เสียหาย หลงเชื่อและโอนเงินให้คนร้ายหลายราย ผู้เสียหายจำนวน 4 รายที่เหตุเกิดในจังหวัดขอนแก่น มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย 1. น.ส.สโรชา 2. น.ส.สุนี 3. นายสมชาย 4. นายหลงติ๊บ ผู้ต้องหาว่าได้กระทำความผิดฐาน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ร่วมกันจับกุมนายสมชาย บริเวณชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สโรชา, น.ส.สุนี และนายหลงติ๊บ นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลนายสมชาย ได้ร่วมกระทำความผิดกับนายหลงติ๊บ โดยแฮกเฟซบุ๊ก หรือไลน์บุคคลอื่น แล้วสวมรอยเป็นบุคคลนั้น ส่งข้อความไปหลอกลวงบุคคลอื่นที่เป็นเพื่อนผู้เสียหาย เพื่อหลอกขอยืมเงิน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินมาให้ ผ่านบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท จากนั้นจะนำเงินจากบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ไปซื้อพินเล่นเกมส์ เพื่อฟอกเงินผ่านร้านเกมส์ นำเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง ทางร้านเกมส์จะโอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีอื่น เพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานตำรวจติตามได้ และไปกดเงินสดนำเงินสดมามอบให้


จากการสืบสวนสอบสวน และจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ สามารถตัดวงจรเครือข่ายผู้กระทำผิด ได้ดังนี้ 1.อายัดบัญชีทรูวอลเลตที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวน 138 บัญชี 2.ตรวจยึดของกลาง (ซิมการ์ด) ในคดีจำนวน 76 ซิม ที่ใช้สมัครวอลเล็ท 3.อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด 10 บัญชี

พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3 กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ยังมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาแฮกเฟซบุ๊ก หรือไลน์ สวมรอยหลอกลวงยืมเงิน ดังนี้ 1.ผู้เสียหายที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ในพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 38 คดี 2.ผู้เสียหายที่แจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ระหว่างเดือน เมษายน – พฤษภาคม 2565จำนวน 90 คดี 3.มูลค่าความเสียหายทั่วประเทศ ประมาณ 10,000,000 บาท 4.ในส่วนคดีผู้เสียหายในคดีนี้ที่ถูกไลน์ชื่อว่า “ท่านXXXXXXXXXX” หลอกให้โอนเงินจำนวน 20 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น