เลย- เด็กนักเรียนน่าเป็นห่วง หลังคณะครูและผู้ปกครองส่วนหนึ่งเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลยให้ย้าย
ผอ.รร.บ้านโนนป่าซาง อ.ผาขาวไปเมื่อ3วันก่อน ล่าสุดวันนี้มีม็อบศิษย์เก่าเข้าร้องอีกแต่ร้องให้ตรวจสอบเบื้องหลังกลุ่มที่นัดชุมนุมไล่ ผอ. เชื่อเป็นความแย้งส่วนตัว ทำให้นักเรียน ชุมชน ได้รับความเสียหาย
จากกรณีเมื่อหลายวันก่อน ตัวแทนคณะครู นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง อ.ผาขาว กว่า 50 คนได้นัดรวมตัวด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเลย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ย้ายนายภัทรเดช สุทาธรรม ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนบ้านโนนป่าซาง โดยอ้างว่านายภัทรเดชมีพฤติกรรมการบริหารงานส่อไปในทางไม่สุจริตอีกทั้งยังสร้างความแตกแยกในหมู่คณะครู
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(15มิ.ย.)มีกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง พร้อมด้วยตัวแทนชุมชนและตัวแทนผู้ปกครอง เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และศูนย์ดำรงด์ธรรม เพื่อ ขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและหาข้อยุติในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง เนื่องจากเกิดความแตกแยกเป็นอย่างมาก ระหว่าง เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน จนรับไม่ได้
นายไสว กุลวงษ์ ประธานคณะกรรมการศึกษาโรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนบ้านโนนป่าซางได้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษาและคณะครูบางส่วนมาเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้นำชุมชนได้แสดงความประสงค์ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 เข้ามาแก้ไขปัญหาครั้งหนึ่งแล้ว
แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยุติปัญหาดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดได้มีกลุ่มครู ผู้ปกครองและบุคคลภายนอกจำนวนหนึ่งที่กล่าวอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกิดเหตุคดีพิพาท ตามประเด็นที่เผยแพร่ไปยังสำนักข่าวท้องถิ่น สื่อออนไลน์ โดยไม่ทราบมูลเหตุและข้อเท็จจริง เข้ายื่นหนังสือ ขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง นายภัทรเดช สุทาธรรม
ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลให้โรงเรียน นักเรียน และชุมชนเสียหาย เนื่องจากข้อพิพาทหรือมูลเหตุที่กล่าวอ้างนั้นมีบางประเด็นที่คลาดเคลื่อนและผิดไปจากข้อเท็จจริง หลายประเด็นที่ใช้เป็นข้อเรียกร้องโดยส่อไปในทางพฤติกรรมส่วนบุคคลระหว่างผู้ร้องและผู้ถูกกล่าวอ้าง
อย่างไรก็ตามครูทั้งหมดทั้ง 9 ท่าน ที่ไปร่วมชุมนุมเรียกร้องในวันดังกล่าว ถือว่าไม่มาปฏิบัติราชการ โดยขาดและละทิ้งหน้าที่ ไปดำเนินการดังกล่าว
ซึ่งส่งผล ให้นักเรียนจำนวน 265 คนเสียโอกาสในการเรียนหนังสือ นักเรียนระดับชั้นปฐมวัยได้เดินทางมาโรงเรียนแต่ไม่มีครูปฏิบัติหน้าที่ผู้ปกครองจำนวนมากมารอส่งนักเรียนแต่ต้องรับบุตรหลานกลับไป และนักเรียนระดับชั้นอื่น ก็ไม่ได้เรียนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งเดิมได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และมีผลกระทบกับการเรียนของเด็กมากพออยู่แล้วยังมาได้รับผลกระทบจากการกระทำของครูอีก ซึ่งเป็นแม่พิมพ์ของชาติที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ปฏิบัติตามราชการตามผู้บังคับบัญชา
เพราะฉะนั้น ทางคณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำ ชุมชนและตัวแทนผู้ปกครองโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง ขอให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ดำเนินการดังนี้
1. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 พิจารณาโยกย้ายครูที่มีปัญหาออกจาก
พื้นที่โรงเรียนบ้านโนนป่าซาง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างผลกระทบแก่ชุมชนและโรงเรียนบ้านโนนป่าซาง
2. ให้ตั้งกรรมการสอบวินัย กรณีขออนุญาตไปราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทั้ง 9 ท่าน ว่าถูกต้องตามระเบียบของราชการหรือไม่ เป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการหรือไม่
3. ให้ตั้งกรรมการสอบวินัย นายเนาว์ เสือพาดกลอน ครูโรงเรียนบ้านโนนสว่างโสกนกไก่นา(กล่าวหาว่า นำกลุ่มครูมาวันนั้น) ที่ยั้วยุปลุกปั่นครูให้กระต้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา และเอาเวลาราชการไปร่วมชับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนอื่น
มีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มศิษย์เก่าที่มาร่วมร้องเรียนได้ แสดงภาพว่า ในหนังสือที่มีการนำมาส่งและร้องเรียน ผอ.กับทางศูนย์ดำรงธรรมนั้น ในตอนท้ายหนังสือที่มี กลุ่มนักเรียนต่างๆ เซ็นชื่อเพื่อขับไล่ ผอ.นั้น บุคคลดังกล่าวที่เป็นศิษย์เก่าไม่ได้มีชื่อจริง ไม่รู้ว่านำลายเซ็นและชื่อมาจากไหน ยืนยันไม่ใช่ศิษย์เก่า อยากให้ ผู้ว่าฯช่วยแก้ไขปัญหาก่อนที่จะมีเรื่องความขัดแย้งความวุ่นวายไปมากไปกว่านี้