สุรินทร์- ชาวบ้านอ.พนมดงรัก สุรินทร์ ผวาหนักช้างป่า 7 ตัว บุกหากินเหยียบย่ำทำลายพืชไร่เกษตรกรหมู่บ้านชายแดนเสียหายจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดติวเข้มชาวบ้านรับมือและป้องกัน หลังพบยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ เผย “เจ้าตูมตาม” ดุร้ายไม่กลัวคน ทำร้ายชาวบ้านตายมาแล้ว จนท.วอนอย่าทำร้ายช้างป่า มีโทษปรับนับล้าน ระบุกรมอุทยานฯมีกองทุนเยียวยา
วันนี้ ( 12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต.ตาเมียง และ ต.บักได อ.พนมดรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่าในช่วงนี้มีช้างป่าประมาณ 7 ตัว ได้ออกหากินพืชไร่ เหยียบย่ำทำลายไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลังหลังของเกษตรเสียหายจำนวนมาก และได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน ชาวสวนยางพารา เป็นอย่างมาก เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากช้างป่าขณะออกกรีดยางในช่วงกลางคืน จนทำให้ทีม อาสาสมัครผลักดันช้างป่า (NWA) ต้องเข้าปฏิบัติการผลักดันและติดตามการเคลื่อนไหวของช้างป่า เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบว่าช้างอยู่จุดใดบริเวณใด ไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้จุดนั้น และเพื่อให้ช้างป่าล่าถอยกลับเข้าไปในแนวป่าชายแดน
ล่าสุดวันนี้ ที่ศาลากลางหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา และศาลกลางหมู่บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อบต.บักได ได้มีการจัดอบรมให้ความรู้เบื้องต้นกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับมือกับช้างป่าและหาแนวทางป้องกันระยะยาว ที่สำคัญเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน และเกษตรกรที่ต้องออกทำไปไร่ทำสวน
โดยมี นายวิทูล วรรณทอง ปลัดอำเภอพนมดงรัก,นายณัฐพัชร์ บุญมี นายก อบต.บักได,นายทิฆัมพร สิงหะ ตัวแทนหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ,น.ส.สุวรรเพ็ญ อุตรวิเศษ พนักงานพิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ,นายวีรชัย แขกรัมย์ รองนายก อบต.ตาเมียง,นายรักชาติ ชาญศรี หัวหน้าชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า อ.บ้านกรวด (NWA),หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.บักได , เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันให้ความรู้กับชาวบ้านดังกล่าวและหาแนวทางป้องกันร่วมกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร่วมอบรมรับมือช้างป่าในครั้งนี้จำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อ 2 วันก่อนในช่วงกลางคืน ช้างป่า ได้เข้าไปที่บริเวณสำนักสงฆ์หลวงตารอด ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก และได้ดึงทำลายตู้สัญญาณและสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้รับความเสียหายอีกด้วย
นายรักชาติ ชาญศรี หัวหน้าชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า อ.บ้านกรวด (NWA) กล่าวว่า พบช้างป่าออกหากินในพื้นที่ ต.ตาเมียง และ ต.บักได อ.พนมดงรัก คาดว่ามีประมาณ 7 ตัว ขณะนี้กระจายกันหากินอยู่ในพื้นที่ใกล้กับเขาแหลม ต.แนงมุด อ.กาบเชิง รอยต่อติดกับพื้นที่ บ.เขาโต๊ะ ต.บักได และบริเวณป่าใกล้กับหมู่บ้านหนองคันนา ต.เมียง อ.พนมดงรัก
โดยตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ช้างกลุ่มนี้ยังคงวนเวียนหากินอยู่บริเวณนี้และบริเวณรอบๆ กลุ่ม “ปราสาทตาเมือน” ยังไม่หนีไปใหน ผิดไปจากปีที่แล้วที่ช้างป่าจะผ่านเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ แค่ไม่กี่วันก็จะกลับไปพื้นที่ป่าดงใหญ่คืน แต่ปีนี้ช้างป่ากลุ่มนี้ยังคงวนเวียนหากินและเดินเหยียบย่ำพืชไร่ของชาวบ้าน
และที่สำคัญช้างป่า คือ เจ้าตูมตาม หนึ่งในสมาชิกช้างป่ากลุ่มนี้ เป็นช้างป่าที่ดุร้ายไม่กลัวคนและเคยทำร้ายชาวบ้านที่เข้าป่าหาเห็ดในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จนเสียชีวิตมาแล้ว ได้สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้าน ที่ต้องออกมาทำไร่ทำสวนเป็นอย่างมาก
ทีมอาสาสมัครผลักดันช้างป่า ต้องคอยเฝ้าระวังและติดตามผลักดันช้างป่าอย่างไม่ละสายตา อยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา เพื่อเก็บข้อมูลช้างป่าและแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระวังอันตราย โดยมีแอปพลิเคชั่นและกลุ่มไลน์ต่างๆ ของผู้นำชุมชนที่คอยแจ้งเตือนชาบ้านว่าช้างอยู่จุดไหนอย่างไร เพื่อให้ชาวบ้านทราบข้อมูลตำแหน่งช้าง จะได้ไม่เข้าไปในพื้นที่นั่นๆ
นายรักชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีรับมือช้างป่า หากชาวบ้านพบกับช้างป่า ก่อนอื่นก็อย่าเข้าไปใกล้และต้องตั้งสติ และสังเกตอาการของช้างป่าก่อน ว่าเขาอารมณ์ดีหรือไม่ ให้สังเกตที่ใบหู กับหาง หากหูตั้งหางชี้ แสดงว่าช้างอารมณ์ไม่ดีแล้ว ต้องถอย แต่การถอยต้องดูพื้นที่ ว่าเป็นแบบไหน หากเป็นพื้นที่โล่ง ต้องมีสติและค่อยๆถอย หากต้องวิ่ง เมื่อช้างวิ่งเข้าหา ให้วิ่งแนวเฉียงออกข้างสวนกับช้าง 45 องศา อย่าวิ่งหนีเป็นทางตรง เพราะช้างวิ่งเร็วกว่าคน เพราะเมื่อวิ่งแนวเฉียงช้างจะกลับตัวไม่ทัน ซึ่งจะเป็นกรณีที่จำเป็นจริงๆจวนตัวจริงๆ ในระยะใกล้ที่ช้างวิ่งเข้าหา ก็จะเกิดขึ้นส่วนน้อยเพราะเวลาช้างเจอก็ไม่ได้วิ่งพุ่งเข้าหาเลยทันที จะมีระยะห่างอยู่
ในกรณีที่ถูกทำร้าย หากเรามีมีดมีของแหลม จุดอ่อนของช้างคือตา และเล็บ ส่วนมากตนจะพกไม้แหลมให้ทิ่มไปที่เล็บช้าง ช้างจะเจ็บและจะถอย แต่หากไม่จวนตัวจริงๆก็ไม่แนะนำให้ทำร้ายช้าง หากชาวบ้านต้องไปกรีดยาง ก็แนะนำให้หาแกลลอน หรือขวดพลาสติกต่างๆที่สามารถใส่หิน ใส่ลูกแก้ว หรือลูกปืนเก่าเข้าไปแล้วทำให้เกิดเสียงดังได้เวลาเขย่า ช้างก็จะกลัว แล้วส่องไฟฉายใส่ ส่งเสียงไล่ด้วย ไปๆพ่อใหญ่อะไรก็พูดไป ในช่วงนี้ชาวบ้านที่ทำไร่ทำสวน ก็ให้ระมัดระวังตัวและระแวงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ว่ามีช้างป่าในพื้นที่ และให้ติดตามการแจ้งเตือนว่าช้างอยู่จุดไหนบริเวณไหนด้วย
ด้าน นายทิฆัมพร สิงหะ ตัวแทน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ กล่าวกับชาวบ้านถึงการชดเชยเยียวยาความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรที่เกิดขึ้นจากช้างป่า ว่า การช่วยเหลือเกี่ยวกับกรณีที่ช้างป่าทำลายพืชไร่พืชสวนต่างๆทั้งช้างป่าในเขตและนอกเขต หากได้รับความเสียหาย หลักฐานที่ต้องเตรียมคือ หลักฐานแปลงที่ปลูก ถ้าเป็น สปก.ก็ถ่ายเอกสารด้วย จะได้รู้ระวางและหาได้เจอ ภาพถ่ายความเสียหายทั้งหมด กี่จุดๆ และหนังสือรับรอง จาก อบต.ที่มาประเมินความเสียหาย ทั้งจำนวนพื้นที่ความเสียหาย ชนิดพืชต่างๆ และสุดท้ายใบปะหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านเป็นต้นเรื่องว่ามีลูกบ้านกี่ราย พื้นที่กี่ไร่ชนิดพืชความเสียหายของแต่ละคน
จากนั้น หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ก็จะส่งเรื่องไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งจะมีกองทุนช้างป่าในเรื่องของความช่วยเหลือเยียวยา เสร็จแล้วก็จะมีคณะกรรมการมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราเข้าใจถึงความเสียหายที่พี่น้องประชาชนลงทุนปลูกใช้งบประมาณและเวลากว่าจะโตและเสียดาย
สุดท้ายขอวิงวอนประชาชน อย่าโกรธอย่าแค้นช้างป่าที่มาทำลายพืชไร่ต่างๆ อย่าไปทำร้ายเขา ไม่ว่าจะเป็นการใช้กับดัก ใช้อุปกรณ์ปืนยิงต่างๆ อย่าไปทำร้ายเขา สัตว์ประเภทนี้เป็นสัตว์ที่มีหูทิพย์ อย่าไปกล่าวท้าทายเขา เข้ามาซิ เขาจะมาจริงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ คนไหนที่ท้าทายคืนนั้นเรียบร้อย นี่เป็นข้อแนะนำที่เราควรถือไว้ก็ดี คุยกับเขาดีๆ พูดกับเขาเพราะๆ ขอให้เขาออกไปต่างๆ
“ ที่สำคัญตามกฎหมายการทำรายช้างมีโทษปรับสูง หากเกิดมีการจับกุมผู้กระทำผิด ปัจจุบันค่าปรับเป็นล้านบาท ” นายทิฆัมพร กล่าว