นครสวรรค์ – นักธุรกิจ-นายแบงก์-นายตำรวจใหญ่ ยันร้อยเวรโรงพักกองเมือง..ลูกบ้านโครงการหรูนครสวรรค์ แห่ร้องสระน้ำหมู่บ้านไร้เขื่อนกั้นตลิ่งทำดินสไลด์พื้นบ้านเป็นโพรง-ตัวบ้านทรุด แตกร้าวต่อเนื่อง-ถนนทรุด เจ้าของโครงการซ่อมแบบขอไปที หวั่นบ้านราคา 3-10 ล้าน พังทั้งหลัง
ดร.ภูวพัศ เวสานุชาติ พร้อมลูกบ้านที่อาศัยอยู่ในโครงการหมู่บ้านหรูพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จำนวน 9 ราย ได้พากันเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก่อนจะเดินทางไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.นครสวรรค์ เมื่อ 10 มิ.ย.65 ว่าหลังซื้อบ้านจากโครงการดังกล่าวแล้วต้องประสบกับปัญหา
เนื่องจากสระน้ำของหมู่บ้าน เกิดดินสไลด์ยุบตัว ลามเข้าจนถึงตัวบ้านของลูกบ้านบางส่วนจนได้รับความเสียหายไปหลายหลัง ทั้งยังมีปัญหาถนนภายในโครงการหมู่บ้านชำรุด อันเนื่องมาจากเกิดโพรงใต้พื้นถนน จนทำให้ถนนทรุดตัว รวมถึง เจ้าของผู้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ไม่ได้มีการเทรองท่อระบายน้ำเอาไว้ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมาอีกมากมายในอนาคต
กลุ่มลูกบ้านโครงการฯระบุด้วยว่า ที่ผ่านมานานกว่า 3 ปี ทางเจ้าของผู้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ได้มีการแก้ปัญหาแบบขอเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นไปเป็นครั้งๆ ไม่ยอมแก้ปัญหาให้ตรงจุด จนถึงขณะนี้ดินตลิ่งริมสระน้ำ ก็ยังเกิดการสไลด์สร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านอย่างต่อเนื่อง
จากการสอบถาม ดร.ภูวพัศ เวสานุชาติ ประธานโครงการหมู่บ้านฯ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นบ้านจัดสรร แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่และกำแพงล้อมบ้าน ราคาตั้งแต่ 3.5-10 ล้าน ซึ่งมีลูกบ้านอยู่รวมกันกว่า 40 หลัง ส่วนบ้านที่เกิดปัญหาพังเสียหาย จะอยู่ที่บริเวณโซนริมสระน้ำของโครงการหมู่บ้าน จำนวน 9 หลัง ที่ถูกดินตลิ่งสระน้ำสไลด์กัดเซาะเข้าไปถึงบริเวณพื้นที่บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก กำแพงด้านหลังของบ้านเกิดทรุดตัวแตกร้าว บางหลังก็ได้รับความเสียหายหนักแตกร้าวไปถึงตัวบ้าน ซึ่งก็ยังคงทรุดตัวสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง หนำซ้ำยังพบว่า เกิดโพรงใต้สระน้ำด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายรายอย่างยิ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรับผิดชอบกับเจ้าของโครงการหมู่บ้าน ดร.ภูวพัศ ระบุว่า กลุ่มเจ้าของบ้านผู้เสียหายได้ซื้อบ้านมาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และมาเกิดปัญหาดินสระน้ำสไลด์ เมื่อช่วงต้นปี 2563 ซึ่งก็ได้มีการรวมตัวกับแจ้งกับทางเจ้าของโครงการหมู่บ้านให้มาช่วยแก้ปัญหาอยู่หลายครั้ง แต่ทางเจ้าของก็รับผิดชอบแบบขอไปที ซ่อมไปแบบชั่วคราว ด้วยการเอาดินมาถมเอาให้รอดตัวเรื่อยๆ ไม่มีการซ่อมแซมอย่างจริงจังเลยสักครั้ง จึงทำให้บานปลายเกิดปัญหาใหญ่มากขึ้น
“บ้านตนซื้อมาราคา 5 ล้านกว่าบาท และก่อนซื้อก็เห็นแผนของโครงการจะมีการสร้างเขื่อนล้อมสระน้ำเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ดินสระน้ำทรุดตัว แต่เมื่ออยู่ไป ทางเจ้าของโครงการหมู่บ้าน กลับไม่มาสร้างเขื่อนริมน้ำ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ดินสไลด์ลุกลามไปยังตัวบ้านแต่ละหลัง หนำซ้ำยังเกิดโพรงใต้สระน้ำอีก ซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่มาก ถ้าดินใต้บ้านเกิดเป็นโพรงจากการถูกน้ำกัดเซาะ แล้วเกิดหลุมบ้านยุบตัวพังไป เจ้าของโครงการเขาจะรับผิดชอบไหวไหม แค่ทุกวันนี้ ความรับผิดชอบก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว และแต่ละคนสุดจะทนมาก จึงรวมตัวกันมาลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ และเดินทางไปร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือ”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มผู้เสียหายแต่ละคนที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารธนาคาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แม้แต่ร้อยเวรโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ก็ยังตกเป็นผู้เสียหายด้วย
ส่วนการตรวจสอบบ้านที่มีปัญหาทั้งหมด 9 หลัง พบว่า กำแพงหลังบ้านแต่ละหลัง อยู่ชิดกับขอบริมตลิ่งสระน้ำ ฐานของกำแพงเริ่มมีการทรุดตัวตาม บ้านบางส่วน ได้รับความเสียหายที่ตัวอาคาร หลายจุดมีรอยแตกร้าว เมื่อลองเคาะพื้นของอาคารบ้าน จะได้ยินเสียงไม่แน่น คล้ายกับไม่มีดินอยู่ใต้พื้นคอนกรีต รวมถึงยังพบว่า มีร่องรอยการซ่อมแซมตัวอาคารบ้านที่มีการแตกร้าวแล้ว แต่เป็นไปในลักษณะที่ไม่ได้มาตรฐานมากนัก
ทั้งนี้หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายออกจากโรงพักเดินทางไปร้องเรียนต่อยังศูนย์ดรงธรรม ทางเจ้าหน้าที่ได้รับปากว่า เช้าวันนี้(11 มิ.ย.65) จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาทันที แต่ทางกลุ่มผู้เสียหายก็ยังหวั่นใจว่า อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก เพราะที่ผ่านมา ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแล้ว ทั้งในท้องถิ่น และจังหวัด แต่เรื่องก็ยังเงียบเหมือนเป็นเป่าสาก จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนยังสื่อมวลชนอีกทางด้วย