แพร่ – มือยิง 3 ศพคาที่ประชุมกองทุนหมู่บ้านฯเมืองแพร่ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา บอกทนถูกผู้นำกดดันให้ออกจากหมู่บ้านไม่ไหว ยันพกระเบิดทำเองเอาไว้ใช้ยามคับขัน-ไม่ได้หนี ไม่ได้เตรียมสังหารอัยการ แต่กลัวโดนวิสามัญจะขอให้พามอบตัว
กรณีคดีสะเทือนขวัญ ยิงกันตายที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ ม.7 บ้านทุ่งน้ำใส ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ อันเป็นที่ตั้งกองทุนหมู่บ้านฯด้วย ทำให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตเป็นผู้ใหญ่บ้าน-กรรมการกองทุนฯ รวม 3 ศพ เมื่อวานนี้(10 มิ.ย.65) ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือนายพิทักษ์ชัย รักสุข หลังก่อเหตุใช้อาวุธปันยิงผู้ตายแล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีราโน สีดำ ทะเบียนสิงห์บุรี หลบหนีไปถึงสำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ ถนนเหมืองหิต ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ จึงได้ติดตามควบคุมตัวไว้ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิดมาทำการเก็บกู้วัตถุระเบิด และตรวจยึดของกลางทั้งหมดเพื่อใช้ป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี
หลังจากนั้น ร.ต.ท.(ญ.)ธนัญญา เสมอใจ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้นำผู้ต้องหาคือนายพิทักษ์ชัย เข้าควบคุมตัวที่ สภ.เมืองแพร่ เพื่อรอทำสำนวนและสอบปากคำเพิ่มเติม กระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น.นางพิณทิพย์ ภรรยาผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมพร้อมเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน นานกว่า1 ชั่วโมง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพิทักษ์ชัย ผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำ ซึ่งช่วงเวลานี้เองที่นายพิทักษ์ชัย ผู้ต้องหาพยายามที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวจำนวนมาก โดยบอกว่า การกระทำของตนนั้นเกิดจากทนแรงกดดันไม่ไหว เพราะผู้นำใช้อำนาจกลั่นแกล้งมาโดยตลอด เพื่อผลักดันให้ตนย้ายออกจากหมู่บ้าน
และขอแก้ข่าวที่สื่อมวลชนออกข่าวว่าตนหลบหนีและพยายามไปฆ่าอัยการที่สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ ซึ่งความจริงแล้วตนต้องการไปหาอัยการเพื่อให้พาไปมอบตัวกับตำรวจ เพราะถ้าไปโดยลำพังอาจถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนที่นำระเบิดทำเองไปด้วยนั้น เป็นการเอาไว้ใช้ในช่วงคับขัน ยืนยันว่าการเข้าพบอัยการไม่ได้นำระเบิดเข้าไปด้วย ส่วนการกระทำทั้งหมดเกิดจากแรงกดดันจากผู้ใหญ่บ้าน เมื่อดำเนินการแล้วก็รับสารภาพทุกข้อหา
นางพิณทิพย์ ภรรยา กล่าวว่า ครอบครัวถูกกลั่นแกล้งมาตลอด พยายามขายบ้านไปอยู่ที่อื่นแต่ก็ยังขายไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นทุกข์มาก วันเกิดเหตุตนจะต้องไปจ่ายเงินออมทรัพย์ที่ศาลาเอนกประสงค์เอง แต่สามีขอไปแทนก็ไม่ได้คิดอะไร มาทราบอีกทีตำรวจมาที่บ้าน แต่สามียังไม่กลับเข้ามา ตำรวจแจ้งเหตุให้ทราบรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุรุนแรง
“ที่ผ่านมาสามีช่วยชาวบ้านมาตลอด ทำงานกับประมงจังหวัด เป็นอสาสาประมงฯ จนที่บ้านเป็นศูนย์สาธิตเศรษฐกิจพอเพียง ล่าสุดปรับพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ตามศาสตร์พระราชา โคกหนองนาโมเดล ที่ไหนไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นต้องไปช่วย จึงรู้สึกเสียใจมากกับเหตุที่เกิดครั้งนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิทักษ์ชัย รับสารภาพทุกข้อหายืนยันยอมรับโทษ โดยมีนายสุวิทย์ เหล่าสกุล ทนายความ เข้าร่วมในการสอบสวนทุกขั้นตอน