ไม่กลัวบาป! โจรย่ามใจบุกขโมยคอมฯ แอร์เจดีย์หลวงตามหาบัวถึงสองรอบ

ร้อยเอ็ด - ไม่กลัวบาป! โจรย่ามใจบุกขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ในที่พักสงฆ์รอบเจดีย์หลวงตามหาบัว ที่ จ.ร้อยเอ็ด ถึงสองรอบ ด้านตำรวจส่งกำลังปิดล้อม แต่คว้าน้ำเหลว 2 โจรไหวตัวทันหนีไปได้


วันนี้ (6 มิ.ย.) ร.ต.อ.จิรวัฒน์ วันโพนทอง พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และชุดสายสืบนอกเครื่องแบบ นำกำลังพร้อมกับชาวบ้านปิดล้อมพื้นที่ป่า รอบบริเวณองค์เจดีย์หลวงตามหาบัว ที่บ้านบ้านบัว ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อค้นหาจับคนร้าย หลังได้รับแจ้งว่าพบคนร้าย 2 คนลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ทำการตัดสายไฟขโมยคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งไว้ในที่พักสงฆ์รอบองค์เจดีย์หลวงตามหาบัว

จากการตรวจค้นพื้นที่ปรากฏว่าไม่พบตัวคนร้าย พบเพียงรอยเท้า และร่องรอยคนร้ายคนหนึ่งลุยน้ำออกไปจากพื้นที่ และอีก 1 คนปีนข้ามรั้วหนีไปได้ โดยทิ้งรองเท้าไว้ข้างรั้ว เจ้าหน้าที่จึงยึดมาตรวจสอบ พบว่าเป็นรองเท้าคู่เดียวกับที่พบรอยรองเท้าในจุดที่ลักลอบเข้ามาลักทรัพย์ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบหาข้อพิรุธจากผู้เกี่ยวข้องทั้ง 6 คนที่ดูแลเจดีย์หลวงตามหาบัว ทั้งแม่บ้าน คนงาน คนสวน เพื่อหาเบาะแส และร่องรอยคนร้าย ปรากฏว่าไม่พบพิรุธและไม่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย

จากการสอบสวนปากคำ นายธนกฤต สำเภา อายุ 51 ปี ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยดูแลพื้นที่เจดีย์หลวงตามหาบัว กล่าวว่า การเข้ามาขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์จากที่พักสงฆ์ของคนร้ายครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2565 ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาขโมยคอมเพรสแอร์มิตซูบิชิไปครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งความต่อตำรวจ และกำชับให้คนงาน คนสวน ให้เฝ้าระวังตรวจตราคนร้ายเพิ่มขึ้น




ปรากฏว่าช่วงเช้าวันนี้คนร้ายย่ามใจย้อนกลับมาขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์อีกครั้ง บริเวณที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าใกล้กับจุดแรกอีกรอบ และหัวหน้าคนสวนเห็นจึงรีบโทร.แจ้งตำรวจส่งกำลังมาปิดล้อมจับคนร้าย แต่ผลการทำงานกลับไม่พบ คาดว่าคนร้ายไหวตัวหลบหนีไปได้ สงสัยว่าตอนแจ้งความก็รู้กันเฉพาะคนภายใน แต่แปลกใจที่คนร้ายหลบหนีไปได้ทันก่อนตำรวจจะมาถึง

จากการสอบถาม นายสมพงษ์ ทัดสุวรรณ อายุ 55 ปี คนงานทำสวนที่พบคนร้าย กล่าวว่า ตนเห็นคนร้ายคนหนึ่ง เป็นชายสูงประมาณไม่เกิน 150 เซนติเมตร สวมหมวกไหมพรมสีดำอำพรางใบหน้า ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงลายพรางทหารสีเขียว ใส่รองเท้าบูตแบบทหาร กำลังขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ จึงรีบบอกหัวหน้า โทร.แจ้งตำรวจ แต่ปรากฏว่าคนร้ายไหวตัวหนีไปเสียก่อนที่ตำรวจจะมาถึง




ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาจับคนร้ายกล่าวว่า จากการตรวจสอบร่องรอย และรอยเท้า คนร้ายน่าจะมี 2 คน จากร่องรอยรองเท้า 2 รอย และร่องรอยการหลบหนี ด้วยการลุยน้ำหนี 1 คน และปีนรั้วหนีไปอีก 1 คน และได้ขอให้รักษาพื้นที่ไว้ เพื่อให้ฝ่ายกองพิสูจน์หลักฐาน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการมาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป